เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2568 รายงานบรรยากาศบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านบ้านหนองจาน และบ้านหนองหญ้าแก้ว ตำบลโนนหมากมุ่น อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ซึ่งอยู่ห่างจากแนวชายแดนเพียงไม่กี่กิโลเมตร โดยพบว่าในช่วงเช้า สถานการณ์โดยรวมยังคงเงียบสงบ หลังจากในช่วงกลางดึกคืนก่อน มีรายงานว่าฝ่ายไทยได้เปิดเสียงลักษณะคล้ายเสียงหลอนตลอดแนวชายแดน ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการเชิงจิตวิทยาตอบโต้ต่อความเคลื่อนไหวของกลุ่มมวลชนจากฝั่งกัมพูชาก่อนหน้านี้

ในขณะเดียวกัน มีรายงานว่าคณะ IOT ของกัมพูชาได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณฝั่งตรงข้ามบ้านหนองหญ้าแก้ว แต่จนถึงเช้าวันที่ 12 ตุลาคม บรรยากาศทั้งสองฝั่งยังคงสงบ ไม่มีสัญญาณการรวมตัวของประชาชนหรือกลุ่มมวลชนเพิ่มเติม

เจ้าหน้าที่กองกำลังบูรพาได้ใช้โดรนสำรวจพื้นที่จากมุมสูง พบว่าทั้งสองหมู่บ้านยังอยู่ในภาวะปกติ ส่วนบริเวณฝั่งกัมพูชา พบเพียงทหารประจำจุดประมาณ 5 นาย ปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ

พลตรีเบญจพล เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ และผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการซักซ้อมแผนอพยพประชาชนในเขตชายแดน ว่าการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) กับฝ่ายกัมพูชานั้นยังไม่เกิดขึ้น เนื่องจากข้อเสนอของฝ่ายไทยที่เสนอให้มีการประชุมตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ยังไม่ได้รับการตอบรับจากฝ่ายกัมพูชา ทำให้การหารือไม่สามารถเดินหน้าได้

ทางกองกำลังดำเนินงานด้วยความจริงจัง ได้รับความร่วมมือจากจังหวัดและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะการเตรียมพร้อมเรื่องการอพยพประชาชน เราพยายามสร้างสภาพเกื้อกูลในทุกมิติ พล.ต.เบญจพลกล่าว

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม มีการตรวจพบทุ่นระเบิดในพื้นที่ชายแดน 3 ลูก สะท้อนว่ายังมีทุ่นระเบิดตกค้างอยู่ ซึ่งฝ่ายไทยได้ดำเนินการเก็บกู้อย่างต่อเนื่อง แม้จะพบอุปสรรคจากฝั่งตรงข้ามที่มีท่าทีขัดขวาง แต่ฝ่ายไทยยังคงยืนยันว่าจะดำเนินการต่อไป โดยถือว่าเป็นภารกิจในแผ่นดินของตน เพื่อสร้างความปลอดภัยให้ประชาชนในระยะยาว

พล.ต.เบญจพลระบุว่า ได้มอบหมายให้ พันเอกชัยณรงค์ กาสี ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจที่ 12 ดูแลพื้นที่ที่ประชาชนต้องการเข้าไปทำกิน ให้สามารถใช้ประโยชน์จากพื้นที่ได้อย่างปลอดภัย

เมื่อถูกถามว่า การเก็บกู้ทุ่นระเบิดถือเป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันชาวกัมพูชาที่รุกล้ำเข้ามาหรือไม่ พล.ต.เบญจพลยืนยันว่าใช่ และกล่าวถึงกรอบเวลาที่ประชาชนวางไว้ในการผลักดันชาวกัมพูชาในวันที่ 31 ตุลาคมว่า เป็นเรื่องที่น่าห่วง เพราะประชาชนมีความรักชาติไม่แพ้ทหาร แต่ทางกองกำลังฯ จะประเมินสถานการณ์อย่างรอบคอบ

หากเราได้เปรียบในทุกด้าน เราจะดำเนินการทันที ตอนนี้ฝ่ายกัมพูชายังคงจับตาความเคลื่อนไหวของเราอย่างใกล้ชิด ทุกการเคลื่อนไหวของเราเขารู้หมด จึงขอให้ประชาชนช่วยรักษาความลับของฝ่ายความมั่นคงด้วย พล.ต.เบญจพลกล่าว

ในส่วนของการเจรจา พล.ต.เบญจพลระบุชัดว่า ฝ่ายไทยจะไม่มีการเจรจาอีกต่อไป เว้นแต่ฝั่งกัมพูชาจะยื่นข้อเสนออย่างตรงไปตรงมา โดยที่ผ่านมา ฝ่ายกัมพูชาเคยขอประชุมแต่ไม่แจ้งหัวข้อที่ชัดเจน ซึ่งอาจทำให้การเจรจาไร้ผลเช่นที่ผ่านมา

สำหรับกรณีที่ฝ่ายกัมพูชาร้องเรียนเกี่ยวกับการเปิด เสียงหลอน ตามแนวชายแดนนั้น พล.ต.เบญจพลระบุว่า ไม่ได้ให้ความสำคัญกับข้อร้องเรียนดังกล่าว เพราะเป็นการดำเนินการในพื้นที่ของไทย และเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสภาพจิตใจของทหารที่เข้าเวรอย่างเหนื่อยล้า

บ้านผม แผ่นดินผม อยากจะฟ้องอะไรก็ฟ้องไป ผมไม่สนใจ ทหารมีกำลังใจดี พร้อมปฏิบัติการทุกเมื่อ หากสถานการณ์เป็นใจ พล.ต.เบญจพลย้ำในตอนท้าย.