ถุงยังชีพได้ไม่ทั่วถึง! พิจิตรยังวิกฤต น้ำท่วม 2 เมตรกว่า 2 เดือน ชาวบ้านเดือดร้อนหนัก

ถุงยังชีพได้ไม่ทั่วถึง! พิจิตรยังวิกฤต น้ำท่วม 2 เมตรกว่า 2 เดือน ชาวบ้านเดือดร้อนหนัก

วันที่ 12 ตุลาคม 2568 รายงานสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำยม จังหวัดพิจิตร ยังคงวิกฤตอย่างหนัก น้ำท่วมสูงเฉลี่ย 1-2 เมตร ติดต่อกันนานกว่า 2 เดือน โดยเฉพาะใน 5 อำเภอ ได้แก่ สามง่าม, วชิรบารมี, โพธิ์ประทับช้าง, บึงนาราง และโพทะเล ที่ได้รับผลกระทบจากมวลน้ำไหลหลากจาก จ.สุโขทัย และพื้นที่ทุ่งบางระกำ จ.พิษณุโลก

แม่น้ำยมยังคงล้นตลิ่งในหลายพื้นที่ เช่น ที่สถานีวัดน้ำ Y-52 บ้านวังจิก อ.โพธิ์ประทับช้าง ระดับน้ำอยู่ที่ 7.66 เมตร สูงกว่าตลิ่ง 1.35 เมตร และทรงตัวตลอด 1-2 วันที่ผ่านมา โดยปัญหานี้เกิดจากไม่สามารถระบายน้ำลงแม่น้ำน่านได้ เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำน่านสูงเกินไป ส่งผลให้มวลน้ำทั้งหมดไหลเข้าพิจิตรโดยตรง

หนึ่งในชาวบ้านผู้ประสบภัย นางกำไล แท่งทอง ชาว ต.รังนก อ.สามง่าม ระบุว่า พื้นที่หมู่บ้านถูกน้ำท่วมเกือบ 100% ต้องใช้เรือสัญจรเข้า-ออกนานกว่า 2 เดือน ขณะที่การช่วยเหลือจากภาครัฐมีเพียง 2 ครั้ง และยังไม่ทั่วถึง บางครัวเรือนไม่ได้รับถุงยังชีพเลย เนื่องจากมีจำนวนจำกัดถึงขั้นต้องจับสลาก แจกแบบสุ่ม

นอกจากนี้ ชาวบ้านยังรอความชัดเจนเรื่องเงินเยียวยาหลังคาเรือนละ 9,000 บาท จากรัฐบาล ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่มีการประกาศว่าจะได้รับเมื่อใด ขณะเดียวกันก็ยังต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ต่อเนื่อง เพราะกรมอุตุนิยมวิทยาคาดว่าในช่วง 14-17 ตุลาคมนี้ ภาคเหนือตอนล่างจะมีฝนตกฟ้าคะนองร้อยละ 40-70 ของพื้นที่ รวมถึงการระบายน้ำจากเขื่อนสิริกิติ์และเขื่อนแควน้อย ที่อาจเพิ่มระดับน้ำในแม่น้ำลงอีก

สถานการณ์ในลุ่มน้ำยม คาดว่าจะท่วมขังยาวจนถึง ปลายเดือนพฤศจิกายน ก่อนเข้าสู่ภาวะปกติในช่วงต้นเดือนธันวาคม

ขณะเดียวกัน ยังพบว่าแม่น้ำพิจิตร (แม่น้ำน่านสายเก่า) และคลองข้าวตอก ซึ่งมีศักยภาพเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง กลับไม่มีหน่วยงานใดนำเสนอแผนผันน้ำจากแม่น้ำน่านเข้ากักเก็บไว้ ส่งผลให้น้ำจำนวนมากไหลลงทะเลโดยสูญเปล่า ทั้งที่แม่น้ำและคลองดังกล่าวมีความยาวรวมกว่า 100 กิโลเมตร และสามารถหล่อเลี้ยงประชาชนใน 6 อำเภอได้

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ