วันที่ 8 ต.ค. 68 อ.เจษฎ์ เตือนอย่าหลงเชื่อความเชื่อที่ว่าโรคงูสวัดสามารถรักษาให้หายได้ด้วยเนื้อกล้วย และหากเป็นงูสวัดขึ้นรอบเอวจะทำให้เสียชีวิต เป็นความจริงหรือไม่

กรณีศึกษา: มีกรณีแม่ค้าใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่เป็นงูสวัดและรักษาด้วยวิธีพื้นบ้าน (เคี้ยวหมากพ่นยา) จนเกิดอาการติดเชื้อในกระแสเลือดเกือบเสียชีวิต ซึ่งแสดงถึงอันตรายจากการรักษาผิดวิธี

สาเหตุของโรค: รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ และข้อมูลจากสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ ระบุว่า โรคงูสวัดเกิดจากเชื้อไวรัสวาริเซลลา (Varicella virus) ซึ่งเป็นชนิดเดียวกับที่ทำให้เกิดโรคสุกใส ไวรัสจะซ่อนอยู่ในปมประสาทและกำเริบเมื่อร่างกายมีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ทำให้เกิดผื่นและตุ่มน้ำตามแนวเส้นประสาทเพียงซีกใดซีกหนึ่งของร่างกาย

การรักษาที่ถูกต้อง: การรักษาหลักคือการใช้ยาต้านไวรัส (เช่น กลุ่มอะไซโคลเวียร์) เพื่อยับยั้งการแบ่งตัวของเชื้อไวรัส ควบคู่กับการรักษาตามอาการ เช่น ยาระงับอาการปวดและคัน ส่วนสมุนไพรอย่าง "เสลดพังพอน" ใช้บรรเทาอาการได้เท่านั้น แต่ไม่สามารถรักษาโรคให้หายขาดได้ การใช้ยางกล้วยไม่สามารถรักษาโรคงูสวัดได้

ความเชื่อเรื่อง "งูสวัดพันรอบเอวแล้วตาย": สถาบันโรคผิวหนังยืนยันว่าเป็นข้อมูลเท็จ โดยธรรมชาติของโรคจะเกิดตามแนวเส้นประสาทเพียงซีกเดียวของร่างกาย ไม่สามารถพันรอบตัวได้ และโรคนี้ไม่ถือเป็นโรคร้ายแรงถึงชีวิต ยกเว้นในกลุ่มผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่องอย่างรุนแรงที่อาจมีอาการหนักกว่าคนทั่วไป

งูสวัดไม่สามารถรักษาให้หายได้ด้วยเนื้อกล้วยหรือยางกล้วย การรักษาที่ถูกต้องคือการพบแพทย์เพื่อรับยาต้านไวรัส

ความเชื่อที่ว่างูสวัดขึ้นรอบเอวแล้วจะเสียชีวิตนั้น "ไม่เป็นความจริง" โรคงูสวัดจะเกิดแค่ซีกใดซีกหนึ่งของร่างกายและไม่ใช่โรคร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิต