เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 4 ต.ค. 2568 ที่อาคารเพชรรัตน์ ชั้น 1 โรงพยาบาลวชิรพยาบาล นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แถลงความคืบหน้ากรณีถนนสามเสนทรุดตัว โดยมีตัวแทนจาก รฟม. เป็นผู้ให้ข้อมูลหลัก ร่วมด้วยสำนักงานเขตดุสิต, รพ.วชิรพยาบาล และ สน.สามเสน ภายหลังการประชุมร่วมตรวจสอบโครงสร้างอาคาร สน.สามเสน (หลังใหม่) ซึ่งตั้งอยู่บริเวณจุดที่เกิดเหตุถนนทรุด

นายชัชชาติเปิดเผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา (3 ต.ค.) นายกรัฐมนตรีได้ลงพื้นที่ตรวจสอบด้วยตนเอง พร้อมสั่งการให้ดูแลสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอาคารสถานีตำรวจที่เริ่มทรุดตัวเพิ่มขึ้น และมีความเสี่ยงสูง

จากการประชุมเช้าวันนี้ ซึ่งมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมโยธาธิการ, ตำรวจ, รฟม. และผู้รับเหมา เข้าร่วมประเมิน พบว่าหากไม่รื้อถอนอาคารบางส่วนออกก่อน จะยิ่งยากต่อการถมดินและแก้ไขความเสียหาย อีกทั้งยังเสี่ยงต่อการถล่มระหว่างดำเนินการซ่อมแซม

เพื่อความปลอดภัย ต้องมีการรื้อถอนบางส่วนของ สน.สามเสน โดยเฉพาะจุดขวาสุดของอาคารที่มีความเสี่ยงสูงสุด นายชัชชาติกล่าว

ในการประชุมได้ข้อสรุปแนวทางปฏิบัติเร่งด่วน 6 ประการ

-เคลื่อนย้ายรถยนต์-จักรยาน ทั้งหมดบริเวณรอบ สน.สามเสน ออกจากพื้นที่ (รวมประมาณ 30 คัน) ก่อนดำเนินการรื้อถอน โดยเริ่มเจาะกำแพงด้านหลัง คาดว่าแล้วเสร็จภายในวันนี้

-เริ่มรื้อถอนอาคารบางส่วน โดยเฉพาะฝั่งขวาของ สน.สามเสน ที่มีความเสี่ยงถล่มมากที่สุด

-เสริมความมั่นคงด้านซ้าย ของถนนสามเสน ที่ติดกับสี่แยกวชิรฯ ซึ่งเกิดดินสไลด์ลงมา

-เสริมโครงสร้างอุโมงค์และสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน ด้านล่าง โดย รฟม. และผู้รับเหมารับผิดชอบดำเนินการ

-ติดตามความมั่นคงแฟลตตำรวจ ที่อยู่ใกล้เคียง แม้ยังไม่พบอันตราย แต่เนื่องจากเสาเข็มตื้น จึงต้องเฝ้าระวังต่อเนื่อง

-ตรวจสอบอาคาร รพ.วชิระ และอาคารทีปังกร อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งขณะนี้ยังนิ่ง ไม่มีการเคลื่อนไหว

ผู้ว่าฯ กทม. ยืนยันว่า ค่าใช้จ่ายทั้งหมดจากการรื้อถอนและแก้ไขปัญหาจะอยู่ในความรับผิดชอบของ รฟม. และผู้รับเหมา ไม่มีภาระตกกับกรุงเทพมหานคร

แม้แผนเดิมจะตั้งเป้าคืนถนนสามเสนภายในวันที่ 8 ต.ค.นี้ แต่จากสถานการณ์ล่าสุด การรื้อถอนอาคารอาจทำให้มีการ ขยับกรอบเวลาเล็กน้อย ซึ่งต้องประเมินตามความคืบหน้าอีกครั้ง

ความปลอดภัยต้องมาก่อน แม้ต้องขยับเวลา แต่เป้าหมายคือทำให้เร็วที่สุดและปลอดภัยที่สุด นายชัชชาติ กล่าวสรุป