เจนนี่ รัชนก เล่าถึงประสบการณ์ชีวิต ที่เกือบทำบ้านแตก

เจนนี่ รัชนก เล่าถึงประสบการณ์ชีวิต ที่เกือบทำบ้านแตก

เรียกได้ว่า เส้นทางชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ สำหรับนักร้องสาว เจ้าของค่ายเพลงได้หมดถ้าสดชื่น อย่าง เจนนี่ รัชนก ที่ออกมาเปิดใจ ผ่านรายการ ตีท้ายครัว เล่าย้อนเรื่องราวตั้งแต่วัยเด็กที่ยากจน จนถึงวันที่ต้องต่อสู้กับโรคซึมเศร้า-อาการแพนิก และแรงกดดันจากปัญหาครอบครัว

โดย มีบางช่วงของรายการที่ พิธีกร ได้ถามถึงชีวิตที่ผ่านมา เธอ เล่าว่า ก่อนจะมีชื่อเสียงนั้นลำบากอย่างมาก ถึงขั้นไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง ต้องย้ายที่เช่าอยู่ตลอด จากราคาหลักร้อยไปจนถึงพันกว่าบาท ความขาดแคลนครั้งนั้น กลายเป็นแรงฮึดในใจ ที่ทำให้มุ่งมั่นสร้างทุกสิ่งด้วยตัวเอง จนกลายเป็นความภูมิใจในวันนี้

อย่างไรก็ตาม เบื้องหลังความสำเร็จ กลับเต็มไปด้วยแผลใจ ทั้งภาวะโรคซึมเศร้า และอาการตื่นตระหนกที่คอยรุมเร้า รวมถึงปัญหาหนี้สินของครอบครัวที่กลายเป็นกระแสสังคม เธอต้องรับมือกับแรงกดดัน และหาวิธีอธิบายต่อหน้าคนดู เพื่อไม่ให้ภาพลักษณ์ครอบครัวถูกมองในทางลบ

อีกทั้ง เจนนี่ ยังกล่าวอีกว่า เมื่อเกิดปัญหาครอบครัวขึ้น สิ่งสำคัญที่สุดคือ การจัดการความรู้สึกของคนในบ้าน และการควบคุมการสื่อสารต่อสาธารณะ ทุกครั้งที่ต้องพูดออกไป เธอพยายามรักษาความเป็นปกติที่สุด เพื่อให้ทุกคนเข้าใจว่า ยังมีทางแก้ไข แม้ภายในใจจะเจ็บปวดเพียงใดก็ตาม

สิ่งที่ เธอ ย้ำหนักแน่นคือ ความสัมพันธ์กับสามี ยิว ที่เกือบสั่นคลอน เพราะปัญหาบ้าน เธอตัดสินใจลดอีโก้ วางอารมณ์ และเลือกนั่งคุยกันอย่างจริงใจ เพราะไม่อยากให้ครอบครัวใหม่เดินซ้ำรอยชีวิตที่เคยขาดพ่อในอดีต ซึ่ง เจนนี่ มองว่า นี่คือการตัดสินใจที่ยากที่สุด แต่ก็จำเป็นที่สุดในชีวิต

ภาพ จาก ตีท้ายครัว

เรียบเรียงโดย news.in.th

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ