อนุทิน โร่แจงยิบ สัมพันธ์ซิโน-ไทย ยันไม่มีเอื้อคนผิดแน่ปมถนนทรุด

อนุทิน โร่แจงยิบ สัมพันธ์ซิโน-ไทย ยันไม่มีเอื้อคนผิดแน่ปมถนนทรุด

เมื่อเวลา 11.45 น. วันที่ 2 ตุลาคม 2568 ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยมี นายฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาฯ คนที่ 2 เป็นประธานการประชุม โดยมีวาระสำคัญคือการ ถามสดด้วยวาจา ของ นายปารเมศ วิทยารักษ์สรรค์ ส.ส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) ต่อ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในประเด็น เหตุถนนยุบหน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาล เมื่อวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา

นายปารเมศระบุว่า เหตุถนนยุบที่เกิดขึ้นนั้น ไม่ใช่อุบัติเหตุธรรมดา แต่คือสัญญาณเตือนภัยร้ายแรงต่อความน่าเชื่อถือของโครงการภาครัฐ โดยอ้างอิงข้อมูลจากวิศวกรผู้เชี่ยวชาญที่ระบุว่า หลุมดังกล่าว มีขนาดใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย ลึกกว่า 50 เมตร กว้าง 30 คูณ 30 เมตร โชคดีที่ไม่มีผู้เสียชีวิต แต่สร้างความหวาดกลัวให้กับประชาชนอย่างมาก

เขายังตั้งคำถามว่า หากโครงสร้างอุโมงค์ได้มาตรฐานจริง ทำไมฝนตกหรือน้ำรั่วจึงทำให้เกิดดินถล่มได้รุนแรงขนาดนี้ พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดเผยสาเหตุโดยเร็วเพื่อเรียกคืนความเชื่อมั่นของประชาชน

นายปารเมศ ตั้งคำถาม 3 ข้อสำคัญถึงนายกรัฐมนตรี

-จะซ่อมแซมถนนอย่างไร คืนความเชื่อมั่นเมื่อไหร่

-จะเยียวยาประชาชน-ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบอย่างไร

-จะป้องกันไม่ให้เหตุการณ์นี้เกิดซ้ำกับโครงการอื่น เช่น รถไฟฟ้าสายสีม่วง-สีส้ม อย่างไร

นายอนุทิน ชี้แจงว่า เหตุการณ์นี้เป็นเรื่องใหญ่ที่ทำให้ประชาชนเสียความเชื่อมั่น ตนได้ลงพื้นที่ทันทีหลังเกิดเหตุ พร้อมสั่งการให้ นายพิพัฒน์ รัชกิจปราการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีคมนาคม ตั้ง คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง และรายงานผลให้ตนทุกสัปดาห์

สำหรับการแก้ไขเบื้องต้น นายอนุทินระบุว่า ขณะนี้ การไสลด์ดินหยุดแล้ว และอยู่ระหว่างถมทรายกว่า 10,000 คิว ตามด้วยการบดอัดหินคลุก และลาดยางคืนผิวจราจร ซึ่ง คาดว่าจะเปิดใช้ถนนสามเสนได้บางส่วนในวันที่ 9 ตุลาคมนี้

นายอนุทินย้ำว่า ตนได้สั่งให้กระทรวงคมนาคมเชิญผู้แทนจากกรุงเทพฯ เข้าร่วมในคณะกรรมการสอบสวน เพื่อให้ประชาชนมั่นใจว่าไม่มีการช่วยเหลือหรือปกป้องผู้กระทำผิด และตนจะติดตามผลสอบอย่างใกล้ชิด พร้อมเปิดเผยทุกขั้นตอนต่อสาธารณะ

ในช่วงท้าย นายปารเมศตั้งข้อสงสัยถึงความเชื่อมโยงระหว่างนายอนุทินกับ บริษัท ซิโน-ไทยฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ร่วมกิจการรับเหมาก่อสร้างที่เกี่ยวข้องกับโครงการดังกล่าว

นายอนุทินชี้แจงว่า ตน ออกจากตำแหน่งผู้บริหารซิโน-ไทยฯ ตั้งแต่ปี 2547 และได้ ขายหุ้นทั้งหมดตั้งแต่ปี 2562 ผ่าน ก.ล.ต. อย่างถูกต้อง ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนใด ๆ พร้อมยืนยันว่า ไม่เคยใช้ตำแหน่งทางการเมืองเอื้อประโยชน์ให้บริษัทใดแม้แต่น้อย และพร้อมให้กรรมการสอบสวนทำหน้าที่อย่างอิสระ

ผมกับซิโน-ไทย เหมือนไม่รู้จักกัน ผมให้อิสระเต็มที่ในการตรวจสอบ และถ้าใครทำผิด ต้องรับผิดตามสัญญาแน่นอน นายอนุทิน กล่าวในสภา

นายอนุทินระบุว่า แม้ในสัญญาไม่ได้ระบุชัดเจนเรื่องการเยียวยา แต่หากเกิดเหตุไม่พึงประสงค์ขึ้นจริง ก็ต้องมีการเยียวยาอย่างเหมาะสม ทั้งผู้ประกอบการที่เสียรายได้ ประชาชนในพื้นที่ รวมถึงโรงพยาบาลและสถานีตำรวจที่ได้รับผลกระทบ

หากพบว่าเป็นความผิดพลาดจากการก่อสร้าง ผู้รับจ้างจะต้อง ชดใช้ค่าเสียหายตามสัญญา และอาจถูกปรับหากงานไม่เสร็จตามกำหนด โดยยืนยันว่าจะไม่มีใครแทรกแซงผลการสอบสวนได้

นายปารเมศ กล่าวปิดท้ายว่า ขอให้นายกฯ ตั้งคณะกรรมการที่มีผู้เชี่ยวชาญอิสระจากภายนอกเข้าร่วม และเปิดเผยผลสอบต่อสาธารณะในทุกขั้นตอน เพื่อความโปร่งใส โดยย้ำว่าประชาชนกำลังจับตา และหากไม่ทำให้ชัดเจนจะกระทบต่อความเชื่อมั่นต่อโครงการรัฐในอนาคตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ