เมื่อเวลา 07.10 น. วันที่ 30 กันยายน 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยถึงแผนการลงพื้นที่จังหวัดสระแก้วในสัปดาห์นี้ เพื่อเร่งติดตามปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่าชายแดนไทย-กัมพูชา

นายสุชาติระบุว่า จะลงพื้นที่พร้อมกับนางชญานันท์ ภักดีจิตต์ ปลัดกระทรวงฯ และอธิบดีกรมป่าไม้ เพื่อตรวจสอบพื้นที่ที่มีการแจ้งว่าถูกชาวกัมพูชาบุกรุก และจะหารือกับนายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว รวมถึงให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ โดยย้ำว่าพื้นที่ที่กรมป่าไม้ได้ปักป้ายแสดงสิทธิ์แล้วว่าเป็นของประเทศไทย ต้องได้รับการปกป้องตามกฎหมาย

พื้นที่ป่าของไทยถูกบุกรุก เราไม่สามารถนิ่งเฉยได้ ต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ผู้กระทำผิดต้องได้รับโทษตามกฎหมายของกรมป่าไม้ ซึ่งมีบทลงโทษรุนแรงถึงขั้นจำคุกหลายปี นายสุชาติกล่าว

นายสุชาติยังเน้นว่า การดำเนินการในพื้นที่ชายแดนต้องประสานกับฝ่ายความมั่นคง เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเคยเกิดเหตุปะทะมาก่อน จึงต้องวางแผนอย่างรัดกุม โดยรัฐบาลจะยืนยันอธิปไตยของไทยและไม่ยอมให้มีการบุกรุกจากต่างชาติ

นายสุชาติเปิดเผยเพิ่มเติมว่า พล.อ.อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กระทรวงฯ เตรียมความพร้อมพื้นที่ป่า พื้นที่อุทยาน และเขตอนุรักษ์ที่อยู่ใกล้แนวชายแดนไว้รองรับประชาชน หากเกิดเหตุฉุกเฉินจากความขัดแย้งบริเวณชายแดน เพื่อให้ประชาชนสามารถอพยพได้อย่างปลอดภัยและไม่กระทบกับระบบนิเวศหรือสัตว์ป่า

เราต้องวางแผนล่วงหน้า ไม่ใช่เกิดเหตุแล้วค่อยหาสถานที่รองรับ เรามีพื้นที่อุทยานที่เหมาะสมไว้รองรับแล้ว รวมถึงเตรียมเจ้าหน้าที่ช่วยอพยพประชาชน หากมีสถานการณ์จำเป็น

เมื่อถูกถามถึงกรอบเวลาในการผลักดันชาวกัมพูชาให้ออกจากพื้นที่ ก่อนวันที่ 3 ตุลาคมนี้ นายสุชาติยืนยันว่า กระทรวงทรัพยากรฯ พร้อมสนับสนุนฝ่ายความมั่นคงทุกด้าน แต่การดำเนินการหลักต้องเป็นหน้าที่ของทหารและฝ่ายความมั่นคง โดยกระทรวงจะนำกฎหมายไปสนับสนุนการดำเนินงาน

นี่ไม่ใช่การบุกรุกทั่วไป แต่เกี่ยวพันกับความมั่นคง เราจะไม่ยอมปล่อยให้พื้นที่ของประเทศถูกละเมิด ขนาดคนไทยบุกรุก เรายังไม่ยอม แล้วกรณีคนต่างชาติที่มีข้อพิพาทกับเรา จะไม่ดำเนินคดีได้อย่างไร นายสุชาติย้ำหนักแน่น

ทั้งนี้ เขาขอให้ประชาชนมั่นใจว่ารัฐบาลจะดำเนินการอย่างจริงจัง ภายใต้กรอบกฎหมาย และจะไม่ยอมให้การบุกรุกซ้ำเติมความมั่นคงของประเทศอย่างเด็ดขาด