5 นิสัยแย่ ๆ ก่อนนอน เสี่ยงสุขภาพพังไม่รู้ตัว
หลายคนอาจไม่รู้ว่า พฤติกรรมเล็กๆ ก่อนเข้านอนสามารถส่งผลเสียต่อสุขภาพอย่างมาก ไม่เพียงแค่ทำให้นอนหลับยาก แต่ยังเพิ่มความเสี่ยงเรื่องน้ำหนัก ผิวพรรณ และโรคเรื้อรังโดยไม่รู้ตัว แม้บางพฤติกรรมจะดูเหมือนไม่มีพิษภัย หรือหลายคนยังเข้าใจผิดว่าดีต่อสุขภาพ แต่แท้จริงกลับส่งผลตรงกันข้าม
ไม่ว่าคุณจะเป็นนักศึกษา พนักงานออฟฟิศ หรือผู้สูงอายุ ลองเช็กให้ดีว่าคุณกำลังทำพฤติกรรมเหล่านี้อยู่เป็นประจำหรือไม่
1. ดื่มน้ำมากเกินไปก่อนนอน
แม้จะมีความเชื่อว่าดื่มน้ำเยอะตอนเย็นช่วยล้างสารพิษและบำรุงผิว แต่หากดื่มมากเกินไปก่อนนอน จะทำให้ต้องลุกเข้าห้องน้ำกลางดึกหลายครั้ง ส่งผลให้นอนหลับไม่ต่อเนื่อง ร่างกายพักฟื้นไม่เต็มที่ เกิดความอ่อนเพลียในวันถัดไป และรบกวนระบบเผาผลาญ ซึ่งอาจทำให้น้ำหนักเพิ่มและความดันสูงได้
นอกจากนี้ น้ำส่วนเกินอาจสะสมใต้ผิว ทำให้ตาบวม หน้าบวม และหากทำซ้ำทุกคืน อาจทำให้ผิวหย่อนคล้อยและดูแก่ก่อนวัย
2. รับประทานอาหารหนักก่อนนอน
การกินดึกหรือกินอิ่มใกล้เวลานอน จะทำให้ระบบย่อยอาหารต้องทำงานหนักในขณะที่ร่างกายควรพักผ่อน ส่งผลให้เมตาบอลิซึมช้าลง แคลอรีสะสมเป็นไขมันหน้าท้อง เพิ่มความเสี่ยงโรคอ้วน เบาหวาน และไขมันในเลือดสูง
ยิ่งไปกว่านั้น การกินอิ่มก่อนนอนยังเสี่ยงกรดไหลย้อน ทำให้นอนหลับไม่สนิท ตื่นเช้าแล้วรู้สึกเพลีย และในระยะยาวอาจกระทบต่อระบบทางเดินอาหาร
3. ออกกำลังกายหนักช่วงดึก
การออกกำลังกายหลัง 3 ทุ่มอาจส่งผลเสียมากกว่าผลดี เพราะร่างกายจะหลั่งอะดรีนาลีน กระตุ้นหัวใจและสมองให้ตื่นตัว ส่งผลให้นอนไม่หลับหรือหลับยาก
หากออกกำลังกายเสร็จแล้วเข้านอนทันที ร่างกายและกล้ามเนื้ออาจไม่ได้รับการฟื้นตัวอย่างเหมาะสม เพิ่มความเสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บ และเร่งความเสื่อมของร่างกาย ควรเลือกการออกกำลังกายเบาๆ เช่น โยคะ หรือยืดเหยียด และพักร่างกายก่อนนอนอย่างน้อย 15 นาที
4. ไม่ล้างหน้า/ทำความสะอาดผิวก่อนนอน
การละเลยการทำความสะอาดผิวก่อนนอนทำให้ฝุ่น เหงื่อ ความมัน หรือเครื่องสำอางตกค้างบนผิว ส่งผลให้รูขุมขนอุดตัน เกิดสิว ผิวหมองคล้ำ และแก่เร็ว
โดยเฉพาะผู้หญิง หากไม่ล้างหน้าให้สะอาด อาจทำให้สารเคมีจากเครื่องสำอางทำลายคอลลาเจน และขัดขวางกระบวนการฟื้นฟูผิวในขณะหลับ ทำให้ผิวแห้ง รูขุมขนกว้าง และเกิดริ้วรอยได้ง่าย
5. ใช้มือถือหรือคอมพิวเตอร์ในที่มืด
หลายคนมีนิสัยเล่นโทรศัพท์ก่อนนอน ซึ่งแสงสีฟ้าจากหน้าจอจะไปยับยั้งการหลั่งเมลาโทนิน ฮอร์โมนที่ควบคุมวงจรการนอน ทำให้หลับยาก หลับไม่ลึก และตื่นบ่อย ส่งผลให้คุณภาพการนอนลดลง
การนอนที่ไม่มีคุณภาพยังทำให้ฮอร์โมนผิดปกติ น้ำหนักเพิ่ม ตาบวม ผิวแก่เร็ว และเพิ่มความเสี่ยงโรคซึมเศร้า เบาหวาน และโรคหัวใจ
นอกจากนี้ แสงสีฟ้ายังเป็นปัจจัยที่เพิ่มความเครียดในระดับเซลล์จากอนุมูลอิสระ เร่งให้เซลล์เสื่อมสภาพเร็วขึ้น แม้จะเปิดไฟเล่นมือถือ ก็ยังเสี่ยงต่อผลกระทบในลักษณะเดียวกัน
ทางที่ดีควรหยุดใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่างน้อย 30 นาที - 1 ชั่วโมงก่อนนอน เพื่อให้ร่างกายเข้าสู่โหมดพักผ่อนอย่างเต็มที่






