วันที่ 26 กันยายน 2568 กรมอุตุนิยมวิทยารายงานว่า ประเทศไทยมีแนวโน้มจะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ซึ่งมีโอกาสเกิดฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยจังหวัดที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ เลย ชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา บุรีรัมย์ จันทบุรี และตราด ขณะที่ภาคกลางรวมถึงกรุงเทพมหานครและปริมณฑลจะมีฝนตกหนักบางพื้นที่

ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงโดยเฉพาะบริเวณภูเขา ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่มต่ำ และจุดที่มีน้ำท่วมขัง ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจก่อให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง

ลักษณะอากาศดังกล่าวเป็นผลมาจากร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่มีกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรง พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย

ทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีคลื่นลมแรง โดยเฉพาะบริเวณทะเลอันดามันตอนบนจะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร และอาจสูงเกิน 3 เมตรในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร โดยมีโอกาสคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตรในบริเวณฝนฟ้าคะนอง ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีพายุฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งอย่างน้อยอีก 1 วัน

พายุโซนร้อนกำลังแรง บัวลอย บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกด้านตะวันออกของฟิลิปปินส์ มีแนวโน้มจะเคลื่อนเข้าสู่ทะเลจีนใต้ตอนกลางในคืนวันที่ 26 กันยายน 2568 และอาจขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนในช่วงวันที่ 29 - 30 กันยายน 2568

ภาคเหนือ

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 80 ของพื้นที่

และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะในจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แพร่ สุโขทัย อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ เชียงราย พะเยา น่าน แม่ฮ่องสอน ตาก กำแพงเพชร และพิจิตร

อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส

ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 80 ของพื้นที่

และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง พร้อมลมแรง โดยเฉพาะในจังหวัดเลย หนองบัวลำภู ชัยภูมิ หนองคาย อุดรธานี สกลนคร ขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ร้อยเอ็ด สุรินทร์ ศรีสะเกษ นครราชสีมา อุบลราชธานี บุรีรัมย์ ยโสธร และอำนาจเจริญ

อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส

ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ภาคกลาง

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70 ของพื้นที่

และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี และกาญจนบุรี

อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส

ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ภาคตะวันออก

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 80 ของพื้นที่

และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

โดยเฉพาะในจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ระยอง จันทบุรี และตราด

อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส

ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่

โดยส่วนใหญ่จะตกบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี

อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่

และมีฝนตกหนักบางแห่งในจังหวัดระนอง และพังงา

อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70 ของพื้นที่

และมีฝนตกหนักบางแห่ง

อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส

ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง