รวบแก๊งรับซื้อ บัญชีม้า หลอกคนไทยด้วยกันเองกว่า 10 ปี
สถานีตำรวจภูธรเมืองนครราชสีมา แถลงผลการจับกุมหญิงวัย 33 ปี ผู้ต้องหาคนสำคัญในขบวนการซื้อขาย บัญชีม้า ซึ่งทำหน้าที่สนับสนุนเครือข่ายมิจฉาชีพคอลเซ็นเตอร์ที่มีหัวหน้าใหญ่เป็นชาวจีน เคยมีฐานปฏิบัติการอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน และย้ายกลับเข้ามาในไทยหลังสถานการณ์ชายแดนตึงเครียด
การจับกุมเกิดขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนพบความเคลื่อนไหวของขบวนการมิจฉาชีพในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ที่เกี่ยวข้องกับการจัดหาบัญชีธนาคารจากประชาชนทั่วไป เพื่อนำไปใช้ในการโอนเงินที่ได้จากการหลอกลวงผู้เสียหาย
ระหว่างจัดทำบันทึกจับกุม หญิงผู้ต้องหาได้พยายามเสนอเงินสินบนจำนวน 100,000 บาทให้กับเจ้าหน้าที่เพื่อแลกกับการปล่อยตัว แต่เจ้าหน้าที่ปฏิเสธและแจ้งข้อหาเพิ่ม พร้อมขยายผลนำไปสู่การจับกุมผู้ร่วมขบวนการเพิ่มเติมอีก 6 คน เป็นหญิง 1 ราย และชาย 5 ราย
ระหว่างตรวจค้นที่พักของกลุ่มผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่พบยาบ้ากว่า 200 เม็ด และยาไอซ์อีก 2 ถุง จึงแจ้งข้อหาเพิ่มเติมเกี่ยวกับยาเสพติด และควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดดำเนินคดีตามกฎหมาย
พล.ต.ต.ณรงค์ เสวก ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา เปิดเผยว่า ขบวนการนี้มีรูปแบบการทำงานชัดเจน โดยเริ่มจากการตระเวนหาซื้อบัญชีธนาคารจากประชาชนในพื้นที่ ด้วยราคาประมาณบัญชีละ 3,000-4,000 บาท
เมื่อได้บัญชีแล้ว จะควบคุมตัวเจ้าของบัญชีไว้ในห้องเช่า หรือโรงแรมในเขตเมืองนครราชสีมา เพื่อใช้ในการถอนเงินจากตู้ ATM ทันทีที่มีผู้เสียหายหลงเชื่อและโอนเงินเข้ามาในบัญชีม้า หากบัญชียังไม่ถูกอายัด เจ้าของบัญชีจะถูกควบคุมไว้ใช้งานต่อเนื่อง จนกว่าบัญชีจะไม่สามารถใช้การได้ จึงจะปล่อยตัวและหาผู้ที่เปิดบัญชีรายใหม่แทน
จากข้อมูลการสืบสวน พบว่ากลุ่มนี้สามารถกดเงินสดจากบัญชีม้าได้รวมสูงถึง 400,000-500,000 บาทต่อวัน โดยเมื่อได้เงินมาแล้ว หัวหน้าแก๊งหญิงชาวไทยจะรวบรวมเงินสดและส่งมอบให้กับหัวหน้าชาวจีนที่คอยควบคุมการดำเนินการอยู่ในพื้นที่นครราชสีมา
เจ้าหน้าที่เปิดเผยเพิ่มเติมว่า กลุ่มมิจฉาชีพนี้มีต้นกำเนิดจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยใช้เวลาหลอกลวงคนไทยมาแล้วนานกว่า 10 ปี ก่อนจะย้ายกลับเข้ามาตั้งหลักในประเทศไทย หลังจากรัฐบาลมีมาตรการกดดันและปราบปรามขบวนการคอลเซ็นเตอร์ในประเทศเพื่อนบ้านอย่างเข้มข้น
หญิงหัวหน้าแก๊งที่ถูกจับกุม เป็นคนจังหวัดนครราชสีมา และทำงานกับเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนตั้งแต่ช่วงที่ยังปฏิบัติการอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน ก่อนจะขยายเครือข่ายหลอกลวงในไทย โดยเน้นการเคลื่อนไหวเปลี่ยนสถานที่เพื่อหาผู้เปิดบัญชีรายใหม่ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด
ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลเพิ่มเติม เพื่อรวบรวมหลักฐานดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง และติดตามตัวหัวหน้าใหญ่ชาวจีนของขบวนการนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมาย






