
เขื่อนเจ้าพระยา ตรึงระบายน้ำ วันที่ 4 ท้ายเขื่อนน้ำยังสูง น้ำทะเลหนุนไม่ลด
วันที่ 21 กันยายน 2568 รายงานสถานการณ์น้ำที่เขื่อนเจ้าพระยา ตำบลบางหลวง อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในการบริหารจัดการน้ำลุ่มภาคกลาง ล่าสุดพบว่า ปริมาณน้ำจากทางตอนบนของประเทศที่ไหลเข้าเขื่อนเริ่มมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยที่จุดวัดน้ำ C2 หน้าค่ายจิรประวัติ อำเภอเมืองนครสวรรค์ พบอัตราการไหลของน้ำอยู่ที่ 2,215 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ขณะที่ระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาอยู่ที่ 15.81 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง (ม.รทก.)
ทางเขื่อนเจ้าพระยาได้คง อัตราการระบายน้ำไว้ที่ 2,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน เพื่อให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้น พร้อมทั้งสร้างพื้นที่ว่างในลำน้ำไว้รองรับมวลน้ำจากภาคเหนือที่เกิดจากฝนตกหนักในช่วงที่ผ่านมา และช่วยลดผลกระทบในพื้นที่ท้ายเขื่อนที่กำลังเผชิญกับระดับน้ำที่สูง
ขณะเดียวกัน ระดับน้ำท้ายเขื่อนยังคงทรงตัวในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยวัดได้ที่ 15.23 ม.รทก. ส่วนหนึ่งเป็นผลจากปรากฏการณ์น้ำทะเลหนุนสูงบริเวณปากแม่น้ำเจ้าพระยา
ด้านกรมชลประทานได้ออกประกาศเตือนให้ ประชาชนใน 4 จังหวัดท้ายเขื่อนเจ้าพระยา
-ชัยนาท
-สิงห์บุรี
-อ่างทอง
-พระนครศรีอยุธยา
โดยเฉพาะ พื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ และพื้นที่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ให้เตรียมรับมือกับระดับน้ำที่อาจเพิ่มสูงขึ้นอีก 5-10 เซนติเมตร ภายใน 24 ชั่วโมงข้างหน้า
พื้นที่เสี่ยงที่ต้องจับตาเป็นพิเศษ
-คลองโผงเผง อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง
-คลองบางบาล อำเภอบางบาล
-ตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา
-ตำบลลาดชิด และตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
-พื้นที่ริมตลิ่งแม่น้ำน้อย
กรมชลประทานขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมเตรียมแผนรับมือน้ำท่วมในพื้นที่เสี่ยง โดยเฉพาะบริเวณนอกแนวคันกั้นน้ำและพื้นที่ที่เคยประสบปัญหาน้ำหลากในอดีต