กรมอุตุฯ  เตือน 44 จังหวัด ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ เตือน 44 จังหวัด ฝนตกหนัก

วันที่ 19 กันยายน 2568 กรมอุตุนิยมวิทยารายงานพยากรณ์อากาศ ระบุว่าประเทศไทยยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณกรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมทั้งภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ซึ่งบางพื้นที่จะมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ได้แก่ จังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ปราจีนบุรี จันทบุรี และตราด

ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าวเฝ้าระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ลาดเชิงเขา พื้นที่ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ลุ่ม

สาเหตุของสภาพอากาศแปรปรวนในครั้งนี้ เกิดจากร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น

ขณะเดียวกัน กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศฉบับที่ 2 เตือนเกี่ยวกับพายุดีเปรสชันที่อาจส่งผลให้เกิดมรสุมรุนแรงถล่มพื้นที่ตอนบนของประเทศไทย โดยเฉพาะพื้นที่ทางทะเลบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบน จะมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นอาจสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

นอกจากนี้ พายุโซนร้อน มิแทก ที่กำลังเคลื่อนตัวอยู่บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีแนวโน้มจะเคลื่อนขึ้นฝั่งในช่วงวันที่ 19-20 กันยายน 2568 อย่างไรก็ตาม พายุนี้จะไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณใกล้เคียงตรวจสอบสภาพอากาศล่วงหน้า

ภาคเหนือ

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่

และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดตาก สุโขทัย อุตรดิตถ์ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์

อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส

ลมแปรปรวน ความเร็ว 5-15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70 ของพื้นที่

และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส

ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ภาคกลาง

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70 ของพื้นที่

และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ราชบุรี และนครปฐม

อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส

ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ภาคตะวันออก

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70 ของพื้นที่

และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส

ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่

และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี

อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส

ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่

และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต

และกระบี่อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 28-33 องศาเซลเซียส

ตั้งแต่จังหวัดพังงาขึ้นไป: ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ตั้งแต่จังหวัดภูเก็ตลงไป: ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15–35 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70 ของพื้นที่

และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส

ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ