วันที่ 17 กันยายน 2568 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานว่า ได้รับการแจ้งเตือนจากกรมชลประทานเมื่อวันที่ 14 กันยายน เกี่ยวกับสถานการณ์น้ำในพื้นที่ภาคกลาง โดยระบุว่า ปริมาณน้ำไหลผ่านสถานี C.2 อ.เมืองนครสวรรค์ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอยู่ที่ประมาณ 2,200 - 2,300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ขณะที่สถานี Ct.19 จ.อุทัยธานี คาดว่าจะมีน้ำไหลผ่านประมาณ 200 - 250 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

เพื่อรองรับสถานการณ์ดังกล่าว ได้มีการปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่าน เขื่อนเจ้าพระยา จากเดิมไม่เกิน 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็น ไม่เกิน 2,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แบบขั้นบันได ส่งผลให้ระดับน้ำ ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา จะเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบัน อีก 0.10 - 0.30 เมตร โดยเฉพาะในพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ

พื้นที่เสี่ยงที่อาจได้รับผลกระทบ

จ.อ่างทอง: คลองโผงเผง อ.ไชโย และ อ.ป่าโมก

จ.พระนครศรีอยุธยา: คลองบางบาล แม่น้ำน้อย อ.เสนา และ อ.ผักไห่

จ.สิงห์บุรี: อ.เมืองสิงห์บุรี อ.อินทร์บุรี และ อ.พรหมบุรี

จ.ชัยนาท: อ.สรรพยา

กอปภ.ก. ได้ประสานไปยัง 11 จังหวัด ได้แก่ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ และกรุงเทพมหานคร เพื่อเฝ้าระวังและเตรียมรับมือ โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ

หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ รวมถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้รับคำสั่งให้:

ตรวจสอบความแข็งแรงของแนวคันกั้นน้ำ

เตรียมอุปกรณ์ เครื่องจักร และกำลังคน สำหรับให้ความช่วยเหลือฉุกเฉิน

ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชน โดยเฉพาะผู้ประกอบการริมแม่น้ำ เช่น แพรอาหาร งานก่อสร้างเขื่อน ท่าเทียบเรือ รวมถึงประชาชนทั่วไปที่อยู่ริมน้ำ

ทั้งนี้ ขอให้ประชาชน ติดตามประกาศเตือนภัยจากทางราชการอย่างใกล้ชิด และปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด พร้อมเตรียมขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงในกรณีที่น้ำเริ่มล้นแนวคันกั้น

หากประสบภัยหรือมีความเดือดร้อน สามารถแจ้งเหตุหรือขอความช่วยเหลือได้ที่:

ไลน์ ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784 เพิ่มเพื่อนที่ Line ID: @1784DDPM

สายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง

ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมและประกาศแจ้งเตือนผ่านแอปพลิเคชัน THAI DISASTER ALERT ได้ทุกที่ ทุกเวลา