อนุทิน เผยนั่งนายกฯ ควบ มท.1 ยันยุบสภาใน 4 เดือน

อนุทิน เผยนั่งนายกฯ ควบ มท.1 ยันยุบสภาใน 4 เดือน

เมื่อเวลา 12.10 น. วันที่ 7 กันยายน 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล แถลงอย่างเป็นทางการภายหลังรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ของประเทศไทย โดยกล่าวแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ พร้อมยืนยันว่าจะทุ่มเทปฏิบัติหน้าที่ด้วยความมุ่งมั่นและเสียสละ แม้จะมีข้อจำกัดด้านเวลาและเงื่อนไขทางการเมือง

ผมและคณะรัฐมนตรีทุกคน จะทำงานอย่างไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อย เพื่อให้ประเทศหลุดพ้นจากวิกฤตให้เร็วที่สุด นายอนุทินกล่าว

นายอนุทิน ระบุว่า รัฐบาลภายใต้การนำของเขาจะมุ่งเน้นแก้ไข 4 ปัญหาเร่งด่วน 

1. ปัญหาเศรษฐกิจ เร่งลดค่าครองชีพ ค่าพลังงาน ค่าเดินทาง แก้ไขหนี้สินเกษตรกร และเพิ่มรายได้ระดับชุมชนให้มีความมั่นคง

2. ปัญหาความมั่นคง แก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา ด้วยแนวทางสันติ พร้อมชดเชยความเสียหายให้ประชาชนอย่างรวดเร็ว โดยยืนยันว่าจะไม่มีการยอมเสียอธิปไตยของชาติแม้แต่นิ้วเดียว

3. ปัญหาภัยธรรมชาติ พัฒนาระบบเตือนภัย การเยียวยา และฟื้นฟูผู้ประสบภัย โดยอาศัยประสบการณ์จากการเคยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งตนจะกลับมาควบตำแหน่งนี้อีกครั้ง

4. ปัญหาภัยสังคม เร่งปราบปรามยาเสพติด การค้ามนุษย์ แก๊งหลอกลวงออนไลน์ และการพนัน โดยเน้นความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน

นายอนุทินกล่าวย้ำว่าจะยึดมั่นในหลักนิติธรรม และไม่แทรกแซงกระบวนการยุติธรรม พร้อมเปิดเผยข้อมูลให้ประชาชนสามารถตรวจสอบได้

สิ่งใดที่ผิด จะถูกดำเนินคดีด้วยกฎหมาย ไม่ใช่กฎหมู่ จะไม่มีการแต่งเรื่อง ยัดเยียด หรือกลั่นแกล้งกันอีก

นายอนุทินกล่าวถึงข้อตกลงร่วมกับพรรคประชาชน ว่า รัฐบาลชุดนี้มีเป้าหมายสำคัญคือการเดินหน้าจัดทำ รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยผ่านกระบวนการประชามติ และจะดำเนินการ ยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ภายใน 4 เดือน ตามที่ได้ประกาศไว้

แม้จะมีเวลาเพียง 4 เดือน นายอนุทินยืนยันว่า เขาและคณะรัฐมนตรีจะทำงานต่อเนื่อง ไม่มีวันหยุดหรือพักร้อน พร้อมยืนหยัดทำงานเพื่อประชาชน ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต และจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์

ผมไม่ได้มาเพราะบุญคุณของใคร นอกจากบุญคุณของประชาชนที่ให้ความไว้วางใจผ่านผู้แทนราษฎร และผมจะตอบแทนความไว้วางใจนั้นอย่างสุดกำลัง

ระหว่างการแถลงข่าว นายอนุทินมีบุตรชายมายืนให้กำลังใจอยู่ข้างเวที โดยแสดงสีหน้าภาคภูมิใจ ขณะฟังคำกล่าวของบิดาอย่างตั้งใจ

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ