วันที่ 7 กันยายน 2568 นางสาวนันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) แสดงความเห็นต่อรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี โดยชี้ว่า รัฐบาลชุดนี้เป็นเพียงรัฐบาลเฉพาะกาล ที่มีกรอบเวลา 4 เดือนตามข้อตกลงทางการเมือง กับภารกิจหลักเพียงสองประการ คือ จัดให้มีประชามติเพื่อยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และ ยุบสภาเพื่อให้มีการเลือกตั้งทั่วไป

นางสาวนันทนา ระบุว่า ด้วยระยะเวลาจำกัด รัฐบาลชุดนี้จึงไม่สามารถขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจหรือการปฏิรูประดับโครงสร้างได้อย่างเป็นรูปธรรม สิ่งที่ทำได้คือการประคองสถานการณ์ไปจนกว่าจะมีรัฐบาลจากการเลือกตั้งใหม่เข้ามาบริหารประเทศอย่างเต็มรูปแบบ

นอกจากนี้ นางสาวนันทนายังแสดงความกังวลต่อรายงานข่าวที่ระบุว่าแกนนำพรรคภูมิใจไทยจะเข้ามาดูแลกระทรวงสำคัญ เช่น กระทรวงมหาดไทย หรือกระทรวงยุติธรรม โดยเฉพาะในกรณีที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล อาจนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และ นายศุภชัย ใจสมุทร อาจได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ซึ่งดูแลกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) อยู่

เธอชี้ว่า การแต่งตั้งบุคคลภายในพรรคมาคุมกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับคดีอ่อนไหว เช่น คดี ฮั้ว ส.ว. หรือกรณีที่ดินเขากระโดง อาจสร้างความสงสัยเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน และส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของสังคม พร้อมเสนอว่า ควรแต่งตั้ง คนนอก ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทางการเมืองมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในกระทรวงสำคัญ เพื่อความโปร่งใส

ถ้าไปยุ่งเกี่ยวกับคดีที่เกี่ยวข้องกับ ส.ว.สีน้ำเงิน ซึ่งมีบทบาทแต่งตั้งองค์กรอิสระ แล้วองค์กรอิสระเหล่านั้นกลับมาเป็นคนของพรรคการเมือง จะกลายเป็นปัญหาระยะยาวได้ นางสาวนันทนากล่าว

สำหรับข้อกังวลเรื่องกรอบเวลาว่า 4 เดือนจะเพียงพอต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่นั้น นางสาวนันทนาเห็นว่า หาก ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยในวันที่ 10 กันยายนนี้ ว่าสามารถจัดทำประชามติในสองขั้นตอนตามแผนที่วางไว้ได้ ก็จะเป็นไปตามกรอบเวลา

ขั้นแรกคือประชามติเพื่อแก้ไขมาตรา 256 และจัดตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) จากนั้น เมื่อได้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่แล้ว จึงจัดประชามติรอบสองเพื่อให้ความเห็นชอบ

หากศาลให้เดินหน้าได้ รัฐบาลก็สามารถเริ่มกระบวนการทันที และจบภายใน 4 เดือน แต่สิ่งที่กังวลคือ รัฐบาลจะบิดพลิ้ว ไม่ทำตามข้อตกลงที่ทำไว้กับพรรคประชาชน นางสาวนันทนากล่าวทิ้งท้าย