เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2568 สำนักงานประกันสังคม (สปส.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่ปี 2569 เป็นต้นไป ระบบประกันสังคมของไทยจะมีการปรับโครงสร้างการจ่ายเงินสมทบครั้งใหญ่ ภายใต้แนวคิด จ่ายตามจริง ได้ประโยชน์ตามจริง หรือที่เรียกว่า จ่ายมาก ได้มาก เพื่อเพิ่มความเป็นธรรมและสร้างเสถียรภาพให้กับกองทุนในระยะยาว

ปัจจุบัน ผู้ประกันตนตามมาตรา 33, 39 และ 40 ต่างจ่ายเงินสมทบในอัตราที่อิงจากฐานค่าจ้างสูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท ซึ่งไม่สะท้อนรายได้ที่แท้จริง ส่งผลให้สิทธิประโยชน์ไม่สอดคล้องกับค่าครองชีพ และอาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการเงินของกองทุนในอนาคต

โครงสร้างใหม่ ขั้นบันได 3 ระยะ

ระยะที่ 1 (ปี 2569–2571)

ฐานค่าจ้างสูงสุด: 17,500 บาท

เงินสมทบสูงสุด: 875 บาท/เดือน

สิทธิประโยชน์:

เจ็บป่วย: 8,750 บาท/เดือน

คลอดบุตร: 26,250 บาท/ครั้ง

ทุพพลภาพ: 8,750 บาท/เดือน

เสียชีวิต: 105,000 บาท

ว่างงาน: 8,750 บาท/เดือน

บำนาญ (ส่งสมทบ 15 ปี): 3,500 บาท/เดือน

บำนาญ (ส่งสมทบ 25 ปี): 6,125 บาท/เดือน

ระยะที่ 2 (ปี 2572–2574)

ฐานค่าจ้างสูงสุด: 20,000 บาท

เงินสมทบสูงสุด: 1,000 บาท/เดือน

สิทธิประโยชน์:

เจ็บป่วย: 10,000 บาท/เดือน

คลอดบุตร: 30,000 บาท/ครั้ง

ทุพพลภาพ: 10,000 บาท/เดือน

เสียชีวิต: 120,000 บาท

ว่างงาน: 10,000 บาท/เดือน

บำนาญ (ส่งสมทบ 15 ปี): 4,000 บาท/เดือน

บำนาญ (ส่งสมทบ 25 ปี): 7,000 บาท/เดือน

ระยะที่ 3 (เริ่มปี 2575 เป็นต้นไป)

ฐานค่าจ้างสูงสุด: 23,000 บาท

เงินสมทบสูงสุด: 1,150 บาท/เดือน

สิทธิประโยชน์:

เจ็บป่วย: 11,500 บาท/เดือน

คลอดบุตร: 34,500 บาท/ครั้ง

ทุพพลภาพ: 11,500 บาท/เดือน

เสียชีวิต: 138,000 บาท

ว่างงาน: 11,500 บาท/เดือน

บำนาญ (ส่งสมทบ 15 ปี): 4,600 บาท/เดือน

บำนาญ (ส่งสมทบ 25 ปี): 8,050 บาท/เดือน