ทวี ชี้  MOA ปชน.-ภท. เซาะกร่อนประชาธิปไตย

ทวี ชี้ MOA ปชน.-ภท. เซาะกร่อนประชาธิปไตย

วันที่ 5 กันยายน 2568 ที่อาคารรัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 26 ปีที่ 3 ครั้งที่ 20 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) โดยมีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ ทำหน้าที่ประธานการประชุม

เวลา 09.40 น. นางสาวบุณย์ธิดา สมชัย ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ได้เสนอญัตติให้เลื่อนวาระการพิจารณาโหวตให้ความเห็นชอบบุคคลที่สมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 159 ขึ้นมาพิจารณาก่อน

อย่างไรก็ตาม นายวัชรพล ขาวขำ ส.ส.พรรคเพื่อไทย คัดค้าน โดยเห็นว่ายังมีระเบียบวาระสำคัญที่ต้องพิจารณาก่อน และการเลือกนายกรัฐมนตรีควรให้เวลาสมาชิกได้พิจารณาอย่างรอบด้าน

ภายหลังมีการถกเถียง นายวันมูหะมัดนอร์ ได้เสนอให้สมาชิกโหวตว่าจะเลื่อนญัตติขึ้นมาหรือไม่ แต่ก่อนจะมีการลงมติ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นอภิปรายเสนอให้เปิดโอกาสให้สมาชิกได้อภิปรายก่อน พร้อมหลุดใช้คำว่า ทางฝ่ายค้าน ซึ่งหลายฝ่ายในที่ประชุมตั้งข้อสังเกตว่าอาจสะท้อนท่าทีทางการเมือง

ต่อมา ส.ส.จากพรรคร่วมรัฐบาลเดิม เช่น นายณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ ส.ส.สุพรรณบุรี พรรคชาติไทยพัฒนา ได้ร่วมอภิปรายในประเด็นการเลื่อนญัตติด้วย

 ระหว่างการประชุม มีเสียงสมาชิกบางรายเผลอใช้ถ้อยคำไม่เหมาะสม สร้างความตึงเครียดในที่ประชุม

ช่วงหนึ่งของการอภิปราย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชาติ ได้อภิปรายว่า การเลือกนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้อาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะในประเด็นข้อตกลงทางการเมืองระหว่างพรรคประชาชนกับพรรคภูมิใจไทย

เขาระบุว่า ข้อตกลงดังกล่าว ซึ่งลงนามโดยนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน และนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย มีข้อความตอนหนึ่งที่ระบุว่า หากบุคคลจากพรรคภูมิใจไทยได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จะต้องยุบสภาภายใน 4 เดือน และไม่จัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างมาก ซึ่ง พ.ต.อ.ทวี เห็นว่าเป็นการบิดเบือนรัฐธรรมนูญ และเข้าข่ายละเมิดมาตรา 49 ที่ห้ามมิให้ใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างระบอบประชาธิปไตย

ข้อตกลงนี้อาจไม่ใช่การล้มล้างโดยตรง แต่มีลักษณะบ่อนเซาะ ทำลายหลักประชาธิปไตยอย่างชัดเจน พ.ต.อ.ทวี กล่าว พร้อมเสนอให้พรรคการเมืองที่เกี่ยวข้องยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยถึงความชอบธรรมของข้อตกลงดังกล่าว

เขายังระบุด้วยว่า หลักการประชาธิปไตยต้องยึดเสียงข้างมาก และ ส.ส.ต้องไม่ถูกครอบงำทางการเมืองหรือมีข้อตกลงล่วงหน้าเพื่อต่อรองผลประโยชน์ทางอำนาจ

การเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ควรได้รับการวินิจฉัยให้ชัดเจน เพราะเพียงเริ่มต้นก็ดูเหมือนจะขัดรัฐธรรมนูญแล้ว และน่าเสียใจที่พรรคการเมืองซึ่งอ้างว่ายึดมั่นในประชาธิปไตย กลับเป็นผู้กระทำการที่ทำลายหลักการนี้เสียเอง พ.ต.อ.ทวี กล่าวทิ้งท้าย

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ