นายสหัสวัต คุ้มคง ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาชน ออกมาแสดงความเป็นห่วงต่อสถานการณ์ขาดแคลนแรงงานในพื้นที่ภาคตะวันออก หลังได้รับเสียงสะท้อนจากผู้ประกอบการจำนวนมาก โดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ที่กำลังเผชิญปัญหาแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาทยอยลาออกและเดินทางกลับประเทศ โดยเกิดจากกระแสข่าวปลอมเกี่ยวกับการ ยึดสัญชาติ-ยึดที่ดิน ซึ่งแม้ไม่มีมูลทางกฎหมาย แต่กลับสร้างผลกระทบอย่างเป็นรูปธรรมในพื้นที่จริง

นายสหัสวัตระบุว่า จากการประเมินเบื้องต้น แรงงานกัมพูชาที่เดินทางกลับไปแล้วมีจำนวนเกิน 10% จากแรงงานทั้งหมดราว 540,000 คน ส่งผลให้ธุรกิจ SME และอุตสาหกรรมในภาคตะวันออกหยุดชะงัก โดยเฉพาะธุรกิจร้านอาหาร ร้านล้างรถ โรงแรมขนาดเล็ก รวมถึงอุตสาหกรรมก่อสร้าง เกษตรกรรม และการแปรรูปสินค้าเกษตร

ภาคเกษตรที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ได้แก่ สวนทุเรียน ลำไย มังคุด ซึ่งกำลังจะเข้าสู่ฤดูเก็บเกี่ยว ขณะที่แรงงานในภาคอ้อยและปาล์มน้ำมันก็เริ่มขาดแคลนเช่นกัน เสี่ยงต่อการกระทบห่วงโซ่อุปทานทั้งตลาดน้ำตาลและน้ำมันพืชของประเทศ

ซึ่งได้โพสต์เสนอ 6 แนวทางเร่งด่วนผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัว สหัสวัต คุ้มคง แก้วิกฤตแรงงานข้ามชาติ เพื่อรับมือกับปัญหานี้ นายสหัสวัตเสนอ 6 มาตรการเร่งด่วน

1. สำรวจตำแหน่งงานขาดแคลนในระดับพื้นที่ บูรณาการข้อมูลจากหน่วยงานรัฐและภาคเอกชน เพื่อจัดทำฐานข้อมูลแรงงานเชิงลึก พร้อมเปิดรับแรงงานในประเทศเป็นอันดับแรก

2. ผ่อนผันแรงงานข้ามชาติเข้าทำงานชั่วคราว ใช้กลไกกฎหมาย ม.17 แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง และ ม.14 กับ 63/2 แห่ง พ.ร.ก.แรงงานต่างด้าว อนุญาตให้แรงงานถือพาสปอร์ตทุกประเภทสามารถยื่นขอทำงานชั่วคราวในไทยไม่เกิน 1 ปี พร้อมลดขั้นตอน-ค่าธรรมเนียม

3. ขยาย MOU แรงงานครบวาระโดยไม่ต้องเดินทางกลับประเทศ อนุญาตให้แรงงานที่ครบกำหนด 4 ปี สามารถอยู่ต่ออีก 6-24 เดือนในช่วงวิกฤต ลดภาระการเดินทางกลับไปเริ่มกระบวนการใหม่

4. ยืนยันสิทธิแรงงาน - ปราบขูดรีด ตั้งสายด่วนหลายภาษา พร้อมล่าม และระบบร้องเรียนที่เข้าถึงง่าย ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่หรือผู้ที่เรียกรับผลประโยชน์จากแรงงานต่างด้าวอย่างเด็ดขาด

5. Fast Track สำหรับแรงงานเดิม เปิดช่องทางพิเศษที่ด่านชายแดน ให้แรงงานที่เคยทำงานในไทยสามารถกลับเข้ามาได้สะดวกรวดเร็วโดยใช้ข้อมูลเดิม ลดขั้นตอนซ้ำซ้อน

6. เยียวยาผู้ประกอบการและเกษตรกร เสนอให้รัฐช่วยสมทบเงินประกันสังคมช่วงวิกฤต พักหนี้ธุรกิจ ออกเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ลดค่าธรรมเนียมการจ้างงาน และพิจารณาลดภาษีสำหรับผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบโดยตรง

นายสหัสวัตฝากคำถามสำคัญถึงรัฐบาลว่า

มีแผนจะยุติความขัดแย้งชายแดนเมื่อไหร่? และ จะมีมาตรการรองรับผลกระทบต่อแรงงานและเศรษฐกิจอย่างไร?

เนื่องจากสถานการณ์ในปัจจุบันกำลังลุกลามจนกลายเป็นวิกฤตโครงสร้างที่ส่งผลต่อภาคเศรษฐกิจทั้งในระดับท้องถิ่นและประเทศโดยรวม