ในวันที่ 30 กรกฎาคม 2568 ภาพถ่ายทอดสดจากสถานีโทรทัศน์ NHK ของญี่ปุ่น แสดงให้เห็นคลื่นสีขาวเคลื่อนตัวซัดเข้าชายฝั่ง ฮอกไกโด ทางตอนเหนือ รวมถึง อิบารากิ และ ชิบะ ทางตะวันออกของกรุงโตเกียว ท่ามกลางการประกาศเตือนภัยสึนามิจากเหตุแผ่นดินไหวขนาด 8.7 แมกนิจูด ที่เกิดขึ้นนอกชายฝั่งตะวันออกของรัสเซีย

แม้ยังไม่มีรายงานความเสียหายรุนแรงในพื้นที่ที่คลื่นขึ้นฝั่งแล้ว แต่สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น (JMA) ยืนยันว่า คลื่นยังคงเคลื่อนตัวเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยตรวจพบ คลื่นสูง 50 เซนติเมตร ที่ท่าเรืออิชิโนะมากิ จังหวัดมิยางิ ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในบรรดาจุดที่วัดคลื่นได้ในเบื้องต้น

นายชิจิ คิโยโมโตะ เจ้าหน้าที่รับมือแผ่นดินไหวและสึนามิของ JMA ระบุว่า อันตรายจากคลื่นสึนามิอาจยืดเยื้อและกินเวลานานกว่าหนึ่งวัน จึงขอให้ประชาชนยังคงอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย

การเตือนภัยครั้งนี้ส่งผลกระทบอย่างชัดเจนต่อระบบขนส่งสาธารณะ เรือเฟอร์รีหลายเส้นทาง รวมถึงระหว่างฮอกไกโดกับจังหวัดอาโอโมริ และระหว่างกรุงโตเกียวกับเกาะใกล้เคียง ถูกระงับให้บริการ ขณะเดียวกัน การเดินรถไฟท้องถิ่นบางขบวนต้องล่าช้าหรือหยุดให้บริการชั่วคราว ส่วนสนามบินเซนไดได้ปิดรันเวย์ชั่วคราวเพื่อความปลอดภัย

สำนักงานจัดการอัคคีภัยและภัยพิบัติของญี่ปุ่น รายงานว่า ยังไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ และไม่มีรายงานความผิดปกติจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์หลายแห่งในประเทศ รวมถึงโรงไฟฟ้าฟุกุชิมะ

ประชาชนกว่า 900,000 คนใน 133 เขตเทศบาล ตั้งแต่ฮอกไกโดจนถึงโอกินาวา ได้รับคำสั่งให้อพยพขึ้นที่สูง เพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายจากคลื่นสึนามิ และทางการยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

เหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้นับเป็นหนึ่งในแรงสั่นสะเทือนที่รุนแรงที่สุดของโลก นับตั้งแต่แผ่นดินไหวขนาด 9.0 ในปี 2554 ซึ่งเคยก่อให้เกิดโศกนาฏกรรมสึนามิและวิกฤตโรงไฟฟ้าฟุกุชิมะมาแล้ว