เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา เกิดเหตุสะเทือนใจกลางเมืองกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ หลังจากที่กองกำลังทหารกัมพูชาใช้อาวุธหนักรวมถึงจรวดหลายลำกล้อง BM-21 ยิงเข้ามาในพื้นที่ฝั่งไทย โดยหนึ่งในลูกกระสุนพุ่งตกใส่ร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ภายในปั๊มน้ำมันบ้านผือ ตำบลเมือง อำเภอกันทรลักษ์ ส่งผลให้เกิดระเบิดอย่างรุนแรงและเพลิงไหม้ทันที

เหตุการณ์นี้คร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ถึง 8 ราย บาดเจ็บกว่า 10 คน โดยยังไม่สามารถเข้ากู้ร่างผู้เสียชีวิตได้ทันที เนื่องจากบริเวณจุดเกิดเหตุยังมีกระสุนปืนและวัตถุระเบิดหลงเหลืออยู่ เจ้าหน้าที่ต้องรอให้ทีมเก็บกู้วัตถุระเบิด (EOD) เข้าทำงานอย่างรอบคอบก่อนจะเข้าเก็บกู้ร่างเหยื่อ

กระทั่งเช้าวันที่ 25 กรกฎาคม เวลา 06.30 น. เจ้าหน้าที่ EOD จากกองทัพภาคที่ 2 และตำรวจตระเวนชายแดนภาค 2 ได้เริ่มปฏิบัติการกู้ระเบิดในพื้นที่อย่างเร่งด่วน และล่าสุดสามารถกู้ร่างผู้เสียชีวิตได้แล้ว 5 ราย เบื้องต้นจะมีการส่งร่างทั้งหมดไปตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์ที่โรงพยาบาลกันทรลักษ์ ก่อนส่งมอบให้ญาตินำกลับไปประกอบพิธีทางศาสนา

หนึ่งในญาติผู้เสียชีวิต นายโสภา อายุ 51 ปี ซึ่งสูญเสียหลานเขย ลูกสะใภ้ และหลานอีก 2 คน เล่าทั้งน้ำตาว่า ครอบครัวผู้เสียชีวิตออกจากบ้านด้วยกัน 4 คน ตั้งใจจะไปทำธุระ แต่แวะร้านสะดวกซื้อระหว่างทาง โดยพ่อของครอบครัวได้แยกไปเข้าห้องน้ำ ส่วนภรรยาและลูกอีก 2 คนเข้าไปในร้าน และกลายเป็นเหยื่อของเหตุการณ์รุนแรงครั้งนี้ โดยผู้เป็นพ่อรอดชีวิตอย่างไม่คาดคิด ขณะนี้อยู่ในภาวะช็อกและยังไม่สามารถทำใจได้

ญาติเล่าว่า เมื่อวานหลังทราบข่าวก็มาถึงที่เกิดเหตุทันที และเห็นร่างญาติยังคงอยู่ในร้านสะดวกซื้อ รู้สึกหดหู่ใจ และเป็นห่วงในความปลอดภัยของทุกคน เนื่องจากตลอดทั้งคืนยังคงได้ยินเสียงปืนดังอยู่ต่อเนื่อง ทำให้ครอบครัวในหมู่บ้านต้องอพยพออกไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย เหลือเพียงผู้ชายไม่กี่คนที่อยู่เฝ้าบ้าน  ปัจจุบันสิ่งที่ขาดแคลนคืออาหารและน้ำดื่ม เนื่องจากร้านค้าในหมู่บ้านปิดทั้งหมด สถานการณ์ยังเต็มไปด้วยความหวาดหวั่นและความไม่แน่นอน