ช็อกวงการกีฬา! นักเทนนิสหญิงชื่อดัง ถูกพ่อตัวเองทำร้ายจนเสียชีวิตอย่างสลด ในวัย 25 ปี (ข่าวต่างประเทศ)

ช็อกวงการกีฬา! นักเทนนิสหญิงชื่อดัง ถูกพ่อตัวเองทำร้ายจนเสียชีวิตอย่างสลด ในวัย 25 ปี (ข่าวต่างประเทศ)

จากสื่อต่างประเทศ ได้รายงานว่า รติกา ยาดาฟ เป็นนักเทนนิสหญิงอินเดีย ที่คนท้องถิ่นรู้จักกันดี เธอลงแข่งขันในรายการระดับ ITF ทั้งประเภทเดี่ยวและคู่ เคยมีแรงค์กิ้งขึ้นไปสูงสุด ที่อันดับ 113 ของโลกในประเภทหญิงคู่ของ ITF ด้วยความที่เป็น สาวอินเดียที่มีใบหน้าสวยคม ทำให้เธอมีชื่อเสียงในด้านอื่นๆ ด้วย เช่น เคยเล่นเป็นนางเอก MV ในเพลงชื่อ คาร์วาน ของศิลปิน อินาม อุลฮัค โดยใน MV จะมีฉากโรแมนติก กอดและอิงซบไหล่กับพระเอก ซึ่งเธอก็ทำได้อย่างเป็นธรรมชาติมาก

ส่วนเรื่องเทนนิสอาชีพนั้น ตอนเป็นดาวรุ่งระดับ u-16 เธอมีฝีมือระดับท็อป 20 ของประเทศ แต่พออายุมากขึ้น โชคร้ายที่มาได้รับบาดเจ็บหนักบริเวณไหล่ แล้วพอหายกลับมาก็เล่นได้ไม่ดีเหมือนเดิม จนสุดท้ายไม่สามารถก้าวไปสู่ระดับ WTA ได้ สุดท้ายเธอก็ยอมรับความจริง แล้วผันตัวมาทำงานเป็นโค้ชเยาวชน สอนเทนนิสให้เด็กๆ ที่บ้านเกิดในเมืองกูรูกรัม ที่อยู่ห่างจากเมืองหลวงนิวเดลี ประมาณ 30 กิโลเมตร

สิ่งที่ทำให้รติกาโดดเด่น คือสอนเทนนิสไปด้วย ทำคอนเทนต์ไปด้วย เธออัพคลิปตอนสอนเด็กๆ ลงในอินสตาแกรมอยู่เรื่อยๆ ซึ่งก็มีผู้ติดตามพอสมควร รติกาอาจจะเทิร์นโปรไประดับโลกไม่สำเร็จ แต่ในวัย 25 ปี เธอสามารถเลี้ยงดูตัวเองได้ หาเงินได้เอง สร้างชื่อเสียงของตัวเอง โดยไม่ต้องแบมือขอเงินจากครอบครัว

ทุกอย่างก็ดูปกติดี จนมาถึงวันพฤหัสบดีที่ 10 กรกฎาคม เวลา 10.30 รติกาอยู่ในครัว กำลังทำอาหารให้คุณแม่ที่กำลังป่วย จู่ๆ ก็เกิดเรื่องไม่คาดคิด เมื่อ ดีปัก ยาดาฟ พ่อของรติกา เดินเข้ามาด้านหลัง แล้วควักปืนลูกโม่ .32 ขึ้นมา ก่อนรัวยิง 4 นัดใส่ลูกสาวของตัวเอง จากระยะประชิด กระสุนพุ่งเข้ากลางแผ่นหลังของรติกา 3 นัด และโดนไหล่อีก 1 นัด จนเธอนอนจมกองเลือดอยู่ในครัว

น้าชายของรติกาได้ยินเสียงปืน จึงวิ่งเข้ามาที่ครัว แล้วรีบพาเธอไปโรงพยาบาลมาเรงโก้ เอเชีย แต่ก็ไม่ทันการแล้ว รติกาทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตด้วยกระสุนปืน คดีนี้ รู้ตัวคนร้ายชัดเจน หลักฐานหนักแน่น แต่สิ่งที่ทุกคนไม่รู้เลย คือ "ทำไม" พ่อแท้ๆ ถึงสังหารลูกสาวของตัวเอง ทั้งๆ ที่เธอก็ทำมาหากิน หาเงินหาทอง และใช้ชีวิตของตัวเองเป็นอย่างดี

ตำรวจเค้นสอบปากคำคนพ่ออย่างหนัก และในที่สุดก็ได้คำตอบ ดีปัก พ่อของรติการู้สึกอับอายที่ ลูกสาวของเขาเป็นผู้หญิงแท้ๆ แต่กลับมีชื่อเสียง และหารายได้เข้าบ้าน ทั้งๆ ที่ควรจะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพ่อที่เป็นผู้ชาย นี่เป็นเหตุผลที่น่าแปลกประหลาดมาก แต่มันคือแรงจูงใจจริงๆ

ในข้อเท็จจริงคือ ดีปัก คนพ่อ ไม่ได้มีฐานะย่ำแย่แต่อย่างใด เขาเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ และได้รายได้จากการปล่อยเช่า พ่อไม่ได้ต้องแบมือขอเงินลูกสาวแต่อย่างใด แต่ประเด็นคือ เขาโดนคนอื่นดูถูก แล้วจึงเอาปัญหามาลงกับลูกสาวตัวเอง

ดีปักสารภาพกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า "ตอนผมเข้าไปซื้อนม ที่หมู่บ้านวาซิราบัด มีผู้คนเยาะเย้ยถากถางผม บอกว่าผมใช้ชีวิตด้วยการแบมือขอเงินลูกสาว เรื่องนี้มันรบกวนใจของผมมาก นอกจากนั้น ยังมีคนในหมู่บ้าน ตำหนิลูกสาวของผมที่ทำกริยาไม่เหมาะสม ด้วยการทำตัวเป็นอินฟลูเอนเซอร์ ทำคลิปวีดีโอลงอินเตอร์เน็ต ดังนั้นผมเลยไปบอกลูกสาวว่าให้เลิกสอนเทนนิสได้แล้ว แต่เธอปฏิเสธ"

แม่ของผู้เสียชีวิต ให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับตำรวจว่า ดีปักรู้สึกว่าการที่ลูกสาว มีชื่อเสียงจากการเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์ และหารายได้ ได้ด้วยตัวเอง มันทำให้เขาโมโห เพราะทำให้เขาโดนคนในหมู่บ้านเยาะเย้ย ว่าเป็นพ่อประสาอะไร ที่ให้ลูกหาเลี้ยง

นอกจากนั้น มีรายงานว่าตัวดีปัก โดนคนในหมู่บ้านถากถางเรื่องที่ รติกา ไปเล่น MV ของศิลปิน อินาม อุลฮัค ซึ่งในมิวสิควีดีโอนั้น มีฉากที่เธอต้องโอบกอดพระเอก MV ซึ่งเป็นคนมุสลิมด้วย โดยเหตุการณ์นี้ ทำให้คนพ่อไม่พอใจที่ลูกทำตัวไม่สำรวม ไปแตะเนื้อต้องตัวโดยเฉพาะกับคนต่างศาสนา

เหตุผลหลายอย่างรวมกัน ทำให้ดีปัก ทะเลาะกับรติกาอย่างรุนแรง และออกคำสั่งให้เธอเลิกทำตัวเป็นอินฟลูเอนเซอร์ และเลิกไปสอนเทนนิส เพราะเขาอับอายที่โดนชาวบ้านเยาะเย้ย แต่รติกาไม่เห็นด้วย ทั้งคู่จึงโต้เถียงกันอย่างดุเดือดเป็นเวลา 3 วันเต็ม

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ