จากเว็บต่างประเทศ ได้รายงานว่า ในศาสตร์แพทย์แผนจีน ไต ถือเป็นอวัยวะสำคัญอย่างยิ่งในร่างกาย ทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับระบบสืบพันธุ์ ฮอร์โมน การขับปัสสาวะ เลือด กระดูก และระบบประสาท จึงเปรียบเสมือน เครื่องยนต์ ของชีวิต ในมุมมองการแพทย์ปัจจุบัน ไตทำหน้าที่กรองของเสียและดูดซึมสารอาหารกลับเข้าสู่ร่างกาย หาก ตัวกรอง นี้อุดตันหรือทำงานผิดปกติ จะทำให้สารพิษตกค้าง และส่งผลเสียรุนแรงในระยะยาว

แม้ไตจะเสื่อมถอยอย่างเงียบ ๆ โดยที่ร่างกายยังไม่ส่งสัญญาณเตือนชัดเจน แต่ บริเวณเท้า สามารถเป็นตัวบ่งชี้ปัญหาของไตได้ โดยเฉพาะ “เส้นลมปราณไต” (เส้นพลังงานในศาสตร์จีน) ที่เริ่มต้นจากนิ้วก้อยเท้า

2 สัญญาณที่เท้า บอกได้ว่าไตคุณยังดีอยู่

1.นิ้วก้อยเท้ามีเนื้อและดูเต็ม

-นิ้วก้อยคือจุดเริ่มต้นของเส้นลมปราณไต หากนิ้วก้อยอวบอิ่ม มีเนื้อ แสดงว่าไตยังแข็งแรงดี

-หากนิ้วก้อยลีบ แห้ง ไม่มีชีวิตชีวา อาจหมายถึง “พลังไต” เสื่อม ต้องระวัง

2.เล็บเท้าสีชมพูอมเลือด

-เล็บเท้าสุขภาพดีจะเป็นสีชมพูคล้ายกลีบดอกซากุระ และมีรูปครึ่งวงพระจันทร์ที่ฐานเล็บ

-หากเล็บซีด มีเส้นริ้วแนวตั้ง หรือเปลี่ยนสีเป็นเขียวคล้ำ ม่วง ดำ หรือขาวครึ่งดำครึ่ง โดยเฉพาะที่นิ้วก้อย อาจเป็นสัญญาณเตือนไตอ่อนแอ ต้องพบแพทย์ตรวจเช็ก

อาการปวด 2 ตำแหน่งในร่างกายที่อาจเกี่ยวข้องกับไต

1.ปวดหลังช่วงล่างทั้งสองข้าง ตำแหน่งของไตอยู่บริเวณหลังช่วงล่าง หากมีอาการปวดเรื้อรัง โดยเฉพาะตอนตื่นนอน บวกกับปัสสาวะเข้ม มีฟอง หรือมีอาการบวม อาจเป็นสัญญาณของการอักเสบในไต

2.ปวดขณะปัสสาวะ หากมีอาการเจ็บ แสบ หรือปัสสาวะลำบาก อาจเกิดจากการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ หากปล่อยไว้โดยไม่รักษา อาจลุกลามจนทำให้ไตอักเสบและนำไปสู่ภาวะไตวาย

วิธีดูแลไตให้แข็งแรง ทำได้ง่าย ๆ ทุกวัน

1.แช่เท้า -เวลาเหมาะสม: 1 ทุ่ม-3 ทุ่ม

-ใช้น้ำอุ่นประมาณ 40°C แช่ในอ่างไม้ 15-30 นาที ให้เหงื่อซึมเล็กน้อย

-ช่วยกระตุ้นเส้นลมปราณไต เพิ่มการไหลเวียนโลหิต ขจัดความเย็นในร่างกาย

2.เดินโดยให้ “ส้นเท้า” ลงพื้นก่อน

-เดินย่างก้าวยาว ส้นเท้าลงก่อน ปลายเท้าเตะเบา ๆ ไปข้างหน้า เหมือนกำลังเตะลูกบอล

-ช่วยกระตุ้นจุดฝังเข็มที่เกี่ยวข้องกับไต เสริมพลังไต และเสริมสร้างกระดูก

3.เขย่งเท้า

-ยืนขาชิด ปลายเท้าติดพื้น เกร็งหน้าท้อง ขมิบก้น ยกส้นเท้าขึ้นช้า ๆ จากนั้นปล่อยลงให้ตัวสั่นเบา ๆ

-การเขย่งจะช่วยกระตุ้นเส้นลมปราณกระเพาะปัสสาวะและไต ปรับสมดุลพลังงานและช่วยนวดอวัยวะภายใน

การสังเกต “นิ้วเท้า เล็บ และอาการปวด” ร่วมกับพฤติกรรมดูแลร่างกายประจำวัน เป็นวิธีง่าย ๆ ในการเช็กสุขภาพไตล่วงหน้า อย่ารอจนป่วยแล้วค่อยรักษา