นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยถึง ความคืบหน้าของโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง 2568 ว่า จะเริ่มเปิดให้ลงทะเบียนสำหรับทั้งผู้ประกอบการและนักท่องเที่ยวภายในสัปดาห์นี้ เพื่อให้ทั้งผู้ประกอบการและนักท่องเที่ยวมีเวลาเตรียมตัวและทำความคุ้นเคยกับระบบ ก่อนที่โครงการจะได้รับการอนุมัติและเริ่มดำเนินการอย่างเต็มรูปแบบ แม้ว่าโครงการจะยังไม่ได้นำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีก็ตาม

โดยเงื่อนไขของโครงการ คือ กำหนดจำนวนสิทธิไว้ที่ 5 แสนสิทธิ ลดลงจากเดิมที่ตั้งไว้ 1 ล้านสิทธิ เนื่องจากงบประมาณที่วางแผนไว้จะใช้ดำเนินโครงการอยู่ที่ 1,780 ล้านบาท ถูกเกลี่ยไปใช้กับโครงการกระตุ้นตลาดต่างประเทศในส่วนของการสนับสนุนทั้งเที่ยวบินประจำ (Regular Flight) และเที่ยวบินเช่าเหมาลำ (Charter Flight) ทำให้ต้องปรับลดจำนวนสิทธิลง

สำหรับรูปแบบการดำเนินโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง 2568 ขณะนี้จัดทำไว้ 2 แบบ ได้แก่

รัฐบาลสนับสนุนแบ่งเป็นเที่ยวเมืองหลัก รัฐบาลสมทบให้ 40% ประชาชนจ่ายเอง 60%

เที่ยวเมืองรองหรือเมืองน่าเที่ยว รัฐบาลสมทบให้ 50% ประชาชนจ่ายเอง 50%

แยกการใช้เดินทางเที่ยววันธรรมดาจันทร์-ศุกร์ รัฐบาลสมทบให้ 50% ประชาชนจ่ายเอง 50% แต่หากเที่ยววันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ รัฐบาลสมทบให้ 40% ประชาชนจ่ายเอง 60%

โดยกำหนดจำนวนสิทธิให้ใช้ได้อยู่ที่ 5 สิทธิหรือคืนต่อคน ใช้จ่ายในโรงแรมที่พักสูงสุดไม่เกิน 3,000 บาทต่อห้องต่อคืน รวมถึงมีคูปองดิจิทัลใช้จ่ายในร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ร้านค้าโอทอป และแหล่งท่องเที่ยวได้ด้วย

เงื่อนไขการใช้สิทธิ เที่ยวไทยคนละครึ่ง 2568

เที่ยวเมืองหลัก รัฐบาลสมทบให้ 40% ประชาชนจ่ายเอง 60%

เที่ยวเมืองรองหรือเมืองน่าเที่ยว รัฐบาลสมทบให้ 50% ประชาชนจ่ายเอง 50%

เดินทางเที่ยววันธรรมดา จันทร์-ศุกร์ รัฐบาลสมทบให้ 50% ประชาชนจ่ายเอง 50%

เดินทางเที่ยววันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ รัฐบาลสมทบให้ 40% ประชาชนจ่ายเอง 60%

จำกัดสิทธิในการใช้จำนวนสุงสุด 5 สิทธิต่อคน ใช้จ่ายในโรงแรมที่พักสูงสุดไม่เกิน 3,000 บาทต่อห้องต่อคืน

มีคูปองดิจิทัลใช้จ่ายในร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ร้านค้า OTOP และแหล่งท่องเที่ยวได้ด้วย