จากเว็ยต่างประเทศ ได้รายงานว่า นพ.เฉิน เวยจื้อ (陳威智) แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านลำไส้ใหญ่และลำไส้ตรงจากไต้หวัน แนะนำว่า ผัก 5 ชนิด ได้แก่ แครอท, มะเขือเทศ, ผักโขม, เห็ด และกะหล่ำปลี หากนำมาปรุงให้สุกก่อนรับประทาน จะช่วยเพิ่มการดูดซึมสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายได้มากขึ้น ดังนี้

1.แครอท เมื่อนำไปต้มสุก เซลล์ของแครอทจะอ่อนตัวลง ทำให้ร่างกายดูดซึม เบต้าแคโรทีน ได้ดีขึ้น ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยบำรุงสายตาและลดความเสี่ยงโรคเรื้อรัง

2.มะเขือเทศ การปรุงมะเขือเทศด้วยความร้อน เช่น การต้ม หรือนำไปทำซอส จะช่วยให้ร่างกายดูดซึม ไลโคปีน (Lycopene) ได้มากขึ้นถึง 7 เท่า เมื่อเทียบกับน้ำมะเขือเทศสด ซึ่งไลโคปีนมีคุณสมบัติช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจ เสริมภูมิคุ้มกัน และดูแลสุขภาพผิวพรรณ

3.ผักโขม การปรุงให้สุกสามารถช่วยลดปริมาณ กรดออกซาลิก ที่ขัดขวางการดูดซึมแคลเซียมและธาตุเหล็ก จึงทำให้ร่างกายได้รับแร่ธาตุเหล่านี้ได้ดีขึ้น

4.เห็ด เมื่อนำไปผ่านความร้อน ผนังเซลล์ของเห็ดจะถูกทำลาย ส่งผลให้ โพลีแซคคาไรด์ (polysaccharides) ซึ่งเป็นสารกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ถูกปลดปล่อยออกมาในปริมาณมากขึ้น

5.กะหล่ำปลี หลังการปรุงสุก วิตามิน K และสารไฟโตนิวเทรียนต์ต่าง ๆ จะดูดซึมได้ดีขึ้น ช่วยดูแลระบบลำไส้และลดการอักเสบในระบบทางเดินอาหาร

นักโภชนาการไช่ เจิ้งเลี่ยง (蔡正亮) ยังกล่าวว่า การเลือกกินผักแบบสุกในบางชนิด เช่น มะเขือเทศ ช่วยให้ร่างกายได้รับไลโคปีนมากขึ้น มากกว่าการกินแบบสดหลายเท่า โดยเฉพาะในรูปแบบซอสมะเขือเทศหรือผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการปรุงแล้ว

เคล็ดลับสุขภาพดีง่ายๆ คือ เลือกวิธีปรุงให้เหมาะกับผักแต่ละชนิด ใครที่อยากดูแลสุขภาพหัวใจ ระบบลำไส้ และเสริมภูมิคุ้มกัน อย่าลืมเปลี่ยนพฤติกรรมจากกินผักสดทุกชนิด เป็นเลือกรับประทานผักบางชนิดแบบปรุงสุกบ้าง เพราะ ความร้อน อาจเป็นตัวช่วยสำคัญในการดึงสารอาหารออกมาให้ร่างกายได้ใช้ประโยชน์อย่างสูงสุด