
กฟผ.แง้มข่าวดี จ่อลดค่าไฟ ก.ย.-ธ.ค. 68
วันนี้ (26 พ.ค.) นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวถึงแนวโน้มค่าไฟในงวดสุดท้ายของปี 2558 (กันยายน-ธันวาคม) ว่า มีโอกาสต่ำกว่างวดปัจจุบันที่เรียกเก็บอยู่หน่วยละ 3.98 บาท เนื่องจากทิศทางราคาเชื้อเพลิงที่ไม่สูง ซึ่งสวนทางกับค่าเงินบาทที่แข็งขึ้น ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 32.38 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ขณะที่หนี้ของ กฟผ. ที่รับภาระค่าเชื้อเพลิงให้ประชาชนนั้น ทยอยลดลงต่อเนื่องจนอยู่ประมาณ 71,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ กฟผ. ดำเนินการผลิตไฟฟ้า ดูแลค่าไฟฟ้าควบคู่การทำงานอย่างมีประสิทธิภาพนำเงินส่งรัฐ 50% ของผลกำไร ซึ่งปีนี้เป็นรัฐวิสาหกิจที่นำส่งเงินรัฐอันดับที่ 1 ทั้งที่มีสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าในตลาดเพียง 29% เท่านั้น อีกทั้งภาครัฐยังควบคุมผลตอบแทนรายได้ของ 3 การไฟฟ้า กำหนดอัตราส่วนผลตอบแทนการลงทุนเพื่อการดำเนินงาน (ROIC) ไม่เกิน 5%
หากเกินอัตรานี้ คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) จะใช้เงินเรียกคืนผลประโยชน์ส่วนเกิน (claw back) จาก 3 การไฟฟ้า มาเป็นส่วนลดค่าไฟฟ้า ซึ่งเห็นได้ชัดในค่าไฟฟ้างวดปัจจุบัน โดยถูกเรียกประมาณ 12,200 ล้านบาท หรือคิดเป็นประมาณ 17 สตางค์ของหน่วย
“กฟผ.เป็นเครื่องมือของรัฐในการดูแลประชาชนทั้งค่าไฟและการนำเงินส่งรัฐโดยปี 65 หาก กฟผ.ไม่ร่วมรับต้นทุนค่าไฟ 1.5 แสนล้านบาทค่าไฟจะกระโดดไปถึง 7-8 บาทต่อหน่วย ซึ่งในภาพรวมหาก กฟผ. มีสัดส่วนผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้นก็จะสร้างประโยชน์แก่รัฐเพิ่มมากขึ้นในการเป็นเครื่องมือดูแลประชาชนเพิ่มขึ้น” นายเทพรัตน์ กล่าว