
อย่าเก็บ 4 อาหาร ไว้ในตู้เย็นเด็ดขาด ยิ่งแช่ยิ่งเสียเร็ว พบคนไทยแทบทุกคนทำประจำ
เรียกได้ว่า คนไทยส่วนใหญ่ชอบแช่อาหารไม่งั้นก็ของต่างๆในตู้เย็นกัน เพราะหลายคนคิดว่า ตู้เย็นนั้นสามารถเก็บขอไว้ได้นานมาก แต่รู้ไหมว่า อาหารและสิ่งของบางชนิดก็ไม่ควรนำมาแช่ตู้เย็น วันนี้เราจะไปดู 4 อาหาร ที่ไม่ควรแช่ตู้เย็นเด็ดขาด
1. ผลไม้เมืองร้อน ผลไม้เมืองร้อนไม่ถูกกับอุณหภูมิต่ำ หลายคนซื้อมาแล้วกินไม่หมด กลัวจะเสียเลยนำไปแช่ตู้เย็น โดยไม่รู้ว่าการทำแบบนั้นอาจทำให้ผลไม้เสียเร็วขึ้น เช่น กล้วย มะม่วง ทุเรียน ล้วนเป็นผลไม้เมืองร้อน อุณหภูมิในตู้เย็นที่ต่ำกว่า 4 องศาเซลเซียสอาจทำให้ผลไม้เกิดความเสียหายจากความเย็น เช่น กล้วย ถ้าเก็บในอุณหภูมิห้องจะอยู่ได้ 3–5 วัน แต่ถ้าแช่ตู้เย็น เพียง 2 วันเปลือกก็จะดำคล้ำ นอกจากนี้ ผลไม้เมืองร้อนหลายชนิดมักถูกเก็บเกี่ยวตอนยังไม่สุกดี และต้องการอุณหภูมิห้องเพื่อผลิตเอทิลีนตามธรรมชาติในการเร่งการสุก หากนำไปแช่เย็น จะขัดขวางกระบวนการนี้ ทำให้ภายนอกดูเน่าแต่ข้างในกลับยังไม่สุกเต็มที่
2.สตรอว์เบอร์รี แม้สตรอว์เบอร์รีจะไม่ใช่ผลไม้เมืองร้อน แต่ก็ไม่ควรแช่ตู้เย็นเช่นกัน หลายคนอาจสังเกตว่าพอแช่ตู้เย็นแล้ว สตรอว์เบอร์รีมักขึ้นราง่าย เพราะความชื้นในตู้เย็นสูง โดยธรรมชาติ สตรอว์เบอร์รีมีอายุการเก็บรักษาสั้น จึงควรซื้อแล้วรีบรับประทานให้หมด หากกินไม่หมด ควรเก็บไว้ในที่แห้ง เย็น อากาศถ่ายเทก็เพียงพอ การนำไปแช่ตู้เย็นกลับยิ่งเร่งให้เน่าเสียเร็วขึ้นอีก
3.มันฝรั่ง หลายคนกลัวว่าหากเก็บมันฝรั่งไว้นอกตู้เย็นจะงอกเป็นตา และเมื่อมันฝรั่งงอกก็จะเกิดสารพิษโซลานีน (solanine) ที่ไม่ควรรับประทาน จึงเลือกนำไปแช่ตู้เย็น แต่ความจริงแล้ว สภาพแวดล้อมที่เย็นและชื้นในตู้เย็นกลับยิ่งเร่งให้มันฝรั่งงอกเร็วขึ้น ไม่เพียงเท่านั้น เมื่อแช่ตู้เย็น แป้งในมันฝรั่งจะเปลี่ยนเป็นน้ำตาลอย่างรวดเร็ว และหากนำไปทอดหรือปรุงด้วยความร้อนสูง จะเกิดสารอะคริลาไมด์ (acrylamide) ซึ่งเป็นสารอันตรายต่อร่างกาย
4.น้ำผึ้ง หากยังไม่เปิดฝาและปิดสนิท น้ำผึ้งสามารถเก็บไว้ได้นานมาก แม้เปิดใช้งานแล้วก็ไม่จำเป็นต้องแช่ตู้เย็น เพียงแค่ปิดฝาให้แน่น แล้วเก็บไว้ในที่แห้ง อากาศถ่ายเท ไม่โดนแสงแดดโดยตรง และอยู่ในอุณหภูมิระหว่าง 5–25 องศาเซลเซียสก็เพียงพอ การแช่น้ำผึ้งในตู้เย็นอาจทำให้เกิดการตกผลึกจากอุณหภูมิต่ำ แม้จะไม่กระทบต่อคุณค่าทางโภชนาการและยังสามารถรับประทานได้ตามปกติ แต่จะทำให้รสชาติเปลี่ยนไป และต้องนำไปละลายก่อนจึงจะใช้ต่อได้