ไทยมีทั่วไป! ผลไม้พื้นบ้าน มีประโยชน์มาก แต่ก็มีโทษมากเหมือนกัน เตือนผู้ป่วยโรคไต-นิ่ว ควรหลีกเลี่ยงเด็ดขาด

ไทยมีทั่วไป! ผลไม้พื้นบ้าน มีประโยชน์มาก แต่ก็มีโทษมากเหมือนกัน เตือนผู้ป่วยโรคไต-นิ่ว ควรหลีกเลี่ยงเด็ดขาด

เรียกได้ว่า ไม่มีใครไม่รู้จัก ตะลิงปลิง เป็นผลไม้ที่เปรี้ยวมาก และคนไทยก็ชอบกิน เพราะในหลายๆบ้าน ก้ปลูกไว้ในบ้าน หรือตามตลาดก็จะมีชาวบ้านเก็บมาขายบ้าง วันนี้เราจะพาไปดู ตะลิงปลิง มี ประโยชน์และโทษอะไรบ้าง

ประโยชน์ของตะลิงปลิง

แม้จะมีรสเปรี้ยวจัด แต่ตะลิงปลิงก็มีคุณค่าทางโภชนาการและสรรพคุณทางยาในหลายด้าน เช่น

1.ต้านอนุมูลอิสระ ตะลิงปลิงอุดมด้วยวิตามินซี ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการลดความเสื่อมของเซลล์ และป้องกันโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน หรือมะเร็งบางชนิด

2.ช่วยลดน้ำตาลในเลือด งานวิจัยในระดับเบื้องต้นพบว่า สารสกัดจากตะลิงปลิงสามารถช่วยลดระดับกลูโคสในเลือดของสัตว์ทดลอง จึงมีการศึกษาต่อเนื่องในด้านนี้ แต่อย่างไรก็ตาม ยังไม่ควรใช้แทนยารักษาโรคเบาหวาน

3.มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ใบและผลของตะลิงปลิงมีสารฟลาโวนอยด์และโพลีฟีนอล ที่สามารถช่วยลดการอักเสบเล็กน้อย เช่น อาการปวดฟัน หรือแผลเปื่อยในช่องปากในรูปแบบยาพอกพื้นบ้าน

4.ใช้ลดไข้และแก้ร้อนในในภูมิปัญญาชาวบ้าน ชาวอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ใช้ตะลิงปลิงต้มน้ำดื่มลดไข้ และบรรเทาอาการร้อนในแบบธรรมชาติ

โทษของตะลิงปลิง

แม้จะมีคุณประโยชน์มากมาย แต่การใช้หรือกินตะลิงปลิงอย่างไม่เหมาะสมก็อาจทำให้เกิดอันตรายได้

1.เสี่ยงต่อการเกิดนิ่วในไต และไตวายเฉียบพลัน ในตะลิงปลิงมีกรดออกซาลิก (Oxalic Acid) สูงมาก หากบริโภคในปริมาณมาก โดยเฉพาะในรูปแบบน้ำปั่นหรือน้ำคั้นเข้มข้น อาจทำให้เกิดการตกผลึกแคลเซียมออกซาเลตในไต เคยมีรายงานทางการแพทย์จากบราซิล อินเดีย และฟิลิปปินส์ ว่าผู้ป่วยเกิดภาวะไตวายเฉียบพลัน หลังดื่มน้ำตะลิงปลิงปริมาณมากติดต่อกัน

2.กระทบเคลือบฟัน ความเป็นกรดจัดของผลสดอาจกัดกร่อนเคลือบฟัน หากเคี้ยวหรืออมบ่อยครั้ง ควรบ้วนปากหรือล้างน้ำเปล่าทุกครั้งหลังรับประทาน

3.ระคายเคืองกระเพาะอาหาร ผู้ที่มีโรคกระเพาะหรือกรดไหลย้อน ควรหลีกเลี่ยงการบริโภคตะลิงปลิงสด เพราะอาจกระตุ้นกรดในกระเพาะให้หลั่งมากเกินไป จนทำให้แน่นหรือแสบท้อง

4.ไม่เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง โรคนิ่ว หรือโรคเกาต์ กลุ่มโรคเหล่านี้ไวต่อกรดออกซาลิก และมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดผลข้างเคียงรุนแรง

ควรกินตะลิงปลิง วันละกี่ลูก แม้จะยังไม่มีข้อกำหนดตายตัวในทางโภชนาการ แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพแนะนำว่า กินตะลิงปลิง ในปริมาณพอเหมาะ คือ ไม่เกินวันละ 2-3 ผล สำหรับผู้ที่มีสุขภาพปกติ และควรหลีกเลี่ยงการบริโภคแบบน้ำคั้นหรือปั่นเข้มข้น เพราะจะได้รับกรดออกซาลิกในปริมาณสูงกว่าผลสด

สำหรับผู้ป่วยโรคไต หรือมีประวัตินิ่ว ควรหลีกเลี่ยงอย่างเด็ดขาด เพราะแม้ปริมาณเพียงเล็กน้อยก็อาจกระตุ้นให้เกิดอาการรุนแรงได้ แม้ตะลิงปลิงจะเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพในหลายด้าน แต่การบริโภคต้องอยู่ในปริมาณที่พอดีและเหมาะสมกับสภาพร่างกาย ไม่ควรกินมากเกินความจำเป็น หรือกินต่อเนื่องหลายวัน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ