ภรรยา หนึ่ง จักรวาล เปิดใจถึงคลิปสามี
เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่หลายคนจับตามอง สำหรับกรณีนักแต่งเพลงและเมนเทอร์คนดัง หนึ่ง จักรวาล ที่ล่าสุดถูกชาวเน็ตวิจารณ์แรงในประเด็นที่ลงคลิปจับก้นและพุงลูกสาว ทำให้หลายคนตีความในเชิงไม่ดีและไม่โอเคจนมาต่อว่าหนึ่ง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด ตุ๊กติ๊ก ภรรยาสุดที่รักของ หนึ่ง จักรวาล ก็ได้รับการเปิดเผยว่า เรื่องข่าวก็เห็นแล้ว เพิ่งเห็นเลย ก็ตกใจนิดหน่อย
แต่คลิปที่ออกมาที่พี่หนึ่งลงเป็นคลิปที่คุณแม่หรือพี่เป็นคนถ่ายเอง ซึ่งเขาก็ไม่ได้จับก้นลูกนะคะ ตอนนี้อยู่หน้าลิฟต์แล้วลิฟต์เปิดออกมาพอดี พี่หนึ่งก็ดันลูกไปเพราะลูกยังไม่ยอมเดิน
ทีนี้ด้วยความที่น้องมินมินอายุ 9 ขวบก็จริง แต่น้องดูเป็นคนตัวโตไปหน่อยเลยทำให้คนอาจจะคิดไปในทางอื่นได้
เราไม่โทษคนคิดต่างนะคะ ไม่ได้ว่าอะไรเลยเพราะทุกคนสามารถคิดได้และสามารถแสดงความคิดเห็นได้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิด และเขาก็แค่เป็นห่วงเรา
เอาจริงๆ ในมุมของเรานะ น้องมินมินก็ต้องโตขึ้นเรื่อยๆ เรารู้อยู่แล้วว่าต่อไป หรือพอน้องโตขึ้นเราจะไม่สามารถแสดงความรักกันแบบนี้ได้อีกแล้ว
และเขาก็อาจจะไม่มาสนิทหรือไปไหนมาไหนกับเราแล้ว เพราะเขาก็ต้องโตมีสังคมโรงเรียนและอื่นๆ เรามีขอบเขตของเราว่า เราแสดงความรักกับลูกได้แค่ไหน และทุกวันนี้เราก็นอนด้วยกัน กอด หอมกัน เป็นปกติที่ในบ้าน
อย่างพี่หนึ่งเองเขาเป็นรักแม่มาก สนิทกับแม่มาก เขากอดหอมแม่ประจำ เราเลยรู้ว่าเขาแสดงความรักแบบไหน เราเข้าใจ ซึ่งการเลี้ยงดูลูกในแต่ละบ้านต้องบอกเลยว่าไม่เหมือนกัน
คนเรามีแนวทางการเลี้ยงลูกไม่เหมือนกัน ขนาดพี่หนึ่งเองเขาก็ยังบอกลูกเลยว่าพอลูกโตขึ้น ป๊าหอมและกอดแบบนี้ไม่ได้แล้วนะ และลูกห้ามใส่กระโปรงสั้น อย่าไปทำแบบนี้กับใคร อย่าให้ใครหอม พี่หนึ่งจะเตือนและสอนลูกเสมอ
กับข่าวนี้พี่ยังไม่ได้คุยพี่หนึ่งเลย ก็คิดว่าถ้าเขารู้เข้าก็คงจะเสียใจระดับหนึ่งเลย คือเขารู้ตัวว่าเวลาที่ทำแบบนี้จะแสดงออกถึงความรักลูกไม่มีอีกแล้ว เขามีขอบเขตของเขา
ภรรยาของ หนึ่ง จักรวาล เล่าต่อว่า กับคำต่อว่าแรงๆ ในถ้อยคำดุดันในโซเชียล เราเข้าใจและไม่ได้รู้สึกว่าเขาผิด ต้องบอกว่าเราเข้าใจเพราะเรารู้ว่าเขาหวังดีกับเราและลูก และเข้าใจที่ปัจจุบันมีข่าวเรื่องคนในครอบครัวกับการละเมิดเด็กต่างๆ ทำให้เขาห่วง
และขอบคุณมากจริงๆ ที่มาเตือนให้เราได้คิดและระวังมากขึ้น กับเรื่องการฟ้องคนที่ด่าหยาบคายนั้น อันนี้เรียกว่ายังไม่มีการฟ้อง ก็เอาเป็นว่าให้สังคมเป็นคนออกความคิดเห็นกันดีกว่าว่ายังไง เพราะอย่างน้อยเราเข้าใจในความเป็นห่วงของเขาและขอบคุณจริงๆ เรื่องแบบนี้มันเตือนกันได้และเราจะระวังมากขึ้นจริงๆ
ส่วนเรื่องภาพลักษณ์ของพี่หนึ่งที่อาจจะเสียจากข่าวนี้ ต้องบอกว่าเลยเรื่องการออกมาพูดหรือแถลงอะไรนั้น คิดว่าถ้ามีโอกาสได้พูดก็พูด เพราะต้องบอกตรงๆ ว่า ก็มีคนที่เข้าใจเราว่าเราเป็นคนยังไง และไม่ได้อะไรมากมายกับข่าว
คือเขาเห็นเราตลอดว่าสนิทกับลูก เราแบกลูกเราไปทำงาน ทุกคนก็เห็นและรู้ว่ามันคือเรื่องปกติ
แต่ยอมรับค่ะ พี่หนึ่งอาจจะเสียเซลฟ์หน่อยๆ แต่ก็เข้าใจเพราะอย่างที่บอกตอนนี้มีข่าวเรื่องพ่อแม่จิตไม่ปกติที่ทำไม่ดีกับลูกทำให้คนห่วง ทั้งหมดคือความห่วง เราเข้าใจและขอบคุณมากๆ
สุดท้ายก็ฝากขอบคุณแฟนๆ ทุกคนและขอให้ทุกคนช่วยติดตามครอบครัวต่อไปด้วย อย่าเห็นข่าวนี้หรือมีความเข้าใจผิดไป เพราะพี่หนึ่งเองเป็นคนหนึ่งที่ทำเพื่อคนอื่นตลอดมา อยากให้พิจารณาตรงนี้ด้วยค่ะ และขอบคุณทุกความเป็นห่วงที่ส่งมาหาครอบครัวเรานะคะ
ขอบคุณบทสัมภาษณ์จาก เดลินิวส์
เรียบเรียงโดย ทีมงาน zap dara