เจสัน ยัง หลังบวชครั้งที่ 3

เจสัน ยัง หลังบวชครั้งที่ 3

เชื่อว่าหลายคนคงรู้จักเขาคนนี้เป็นอย่างดี สำหรับ อดีตนักร้องชื่อดังยุค 90 และ นักแสดงมากฝีมือ เจสัน ยัง หลังก่อนหน้านี้เจ้าตัวได้บินลัดฟ้าไปบวชครั้งที่ 3 ไกลถึงประเทศออสเตรเลียนานกว่า 7 เดือน ล่าสุดได้ออกมาเปิดใจผ่านรายการดังพร้อมเผยแบ่งสมบัติทำพินัยกรรมไว้แล้ว

โดย เจสัน ได้เล่าว่า บวชมาแล้ว 3 ครั้ง ครั้งนี้ไปบวชที่ออสเตรเลีย ถามว่าเป็นเพราะหนีปัญหาใช่ไหม ตอบเลยว่าไม่ใช่ ขอตอบย้อนเลยว่าบวชทุกครั้งไม่ได้หนีปัญหาแล้วจะไปแต่ละครั้งไม่ได้จะปุปปัปแล้วไปได้ ผมมีงานตลอด ผมต้องเคลียร์งานก่อนว่าช่วงนี้ผมไม่รับงานขอเบรกไปซักพักนึง ที่ต้องไปออสเตรเลียเพราะครั้งที่ 1 และ 2 บวชที่เมืองไทย ครั้งที่ 3

ผมอยากจะบวชให้แผ่นดินคุณพ่อ คุณพ่อเป็นคนออสเตรเลี่ยน ท่านเกิดและจา ก ไปบนแผ่นดินออสเตรเลีย ครั้งหนึ่งในชีวิตก็อยากจะไปบวชภาวนาอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับแผ่นดินบ้านเกิดเมืองนอนของท่าน

ทุกครั้งผมจะบวชให้คุณพ่อ คุณแม่ หมดเลย ระยะเวลาว่าทำไมเราถึงบวชนาน ทำไมไม่ 15 วัน เดือนนึงแล้วออกมาทำงาน ครั้งหนึ่งเราอยากทำให้ดีที่สุด

แน่นอนเราอุทิศให้คุณพ่อ คุณแม่ ท่านเป็นแรงบันดาลใจ เป็นจุดเริ่มต้นที่เราจะทำความดี นอกจากนั้นก็จะมีญาติๆของผม ตลอดจนครูบาอาจารย์ที่สอนผมมาตั้งแต่อนุบาลจนถึงมหาลัยทั้งในประเทศไทยและประเทศอเมริกา ตลอดจนผู้มีพระคุณ

ผมอยู่ในวงการก็มีผู้มีพระคุณ พี่แก้ว พรีเมียร์ ก็พาผมเข้าวงการ คุณแม่อี๊ด พุทธินันท์ ท่านก็ให้ทุนการศึกษาผมไปเรียนต่ออเมริกา รวมถึงญาติที่ไม่ใช่สายเลือ ด คือพี่น้องที่เจอกันทั้งในวงการและนอกวงการ ก็มีความรักความผูกพันกัน รวมถึงแม่บ้านที่เหมือนแท้ๆ ที่ผมเคยยกบ้านให้เขาไป

จริงๆแล้วเราบวชกี่ครั้งก็ได้ ก่อนผมบวชก็ได้ถามทางพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์แล้ว ไม่มีปัญหาบวชได้ จะบวชกี่ครั้งก็ได้ ถ้าเราบวชแล้วเราทำดี ไม่ได้ทำให้ศาสนาด่างพร้อย

ทางพระพุทธศาสนาเองท่านยินดีอยู่แล้ว กลับมาใช้ทางโลกทุกคนก็ยินดี ในสมัยพุทธกาลก็มีบวช สึก 7 ครั้ง สำเร็จเป็นพระอรหันต์อันนั้นมีอยู่ในพระไตรปิฎกจริง

เรามองว่าทุกครั้งเราตั้งใจเต็มที่ อย่างครั้งนี้ผมเหมือนได้มีโอกาสรับพลังอะไรดีๆมา แต่มีคนทำนายผมว่า ผมจะต้องมี 4 ครั้ง แต่คงไม่เร็วๆนี้ เขาบอกว่าบั้นปลายชีวิต คือครั้งนี้ออกมาจะต้องออกมาเติมเต็มทางโลก ต้องมาทำอะไรให้สำเร็จ ไม่มีอะไรคาใจ สุดท้ายแล้วบั้นปลายจะต้องกลับมาในผ้าเหลืองอีกที

บวช 3 ครั้งเป็นชายสามโบสถ์จริงไหมเหรอ ก็ต้องดูบริบทและต้องดูเวลา มันต่างกรรม ต่างวาระกัน คนโบราณอาจจะบอกว่าชาย 3 โบสถ์คือคนนั้นบวชแล้วอาจจะไม่ประพฤติธรรม ไม่ประพฤติดี ไม่ประพฤติชอบ ออกไปก็เกเร กลับมาใหม่ก็เหมือนเดิมคือบวชกี่โบสถ์ก็ไม่มีอะไรดี

แต่ชาย 3 โบสถ์ที่จริงแล้วหมายความว่าการเปลี่ยนศาสนาถึง 3 ครั้ง ศรัทธาในการเปลี่ยนศาสนาถึง 3 ครั้งแสดงว่าคุณไม่แน่นอนมีความลังเล ถ้าเรามีศรัทธาอยู่ในศาสนาใด ศาสนาหนึ่งแล้วเราจะบวชถึง 3ครั้ง 5ครั้ง 6ครั้ง 7ครั้ง 8ครั้ง ศรัทธามันเพิ่มพูน

ผมสนับสนุนให้คนบวชในระยะสั้นนะสัก 3 เดือน ถ้า 3 เดือน บวชครั้งแรกสอบนักธรรมตรีได้ แล้วก็สึกออกไปทำงานได้ มีโอกาสก็กลับมาบวชอีกซัก 3 เดือนสอบนักธรรมโท แล้วก็ออกไปกลับมาสอบนักธรรมเอก ความรู้ที่ได้เวลาเขาออกไปทำงานมันมีประโยชน์ต่อเขาและสังคมมากนะ

ช่วงบวชครั้งแรก ตอนนั้นไปอยู่กับหลวงพ่อวิริยังค์ ไปปฏิบัติดูแลท่านอยู่ที่แคนาดา พอกลับมาก็อยากจะเดินทางธุดงค์ไปในป่าในเขาตามถ้ำตามที่ต่างๆ ผมก็รู้สึกชีวิตเราไม่แน่นอนความน่ากลัวจะมาเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ถ้าเกิดผมจา กไปสิ่งที่เรามีอยู่จะจัดการยังไงให้มันเกิดประโยชน์และเป็นธรรมที่สุด

ก็เรียกญาติมาเลย ญาติทางฝ่ายคุณแม่มี 4 ครอบครัว แล้วก็ถอนเงินมาหมดเลยก็ไม่เยอะ 8 แสนบาทเอง ครอบครัวละ 2 แสน ผมเหลือศูนย์ ก็บิณฑบาตครับ ตอนนั้นเป็นพระ

ส่วนเรื่องบ้านตอนนั้นยังไม่อยากขายแล้วแบ่งเงิน อยากให้คนมาอยู่ก็เลยนึกถึงแม่บ้าน คือพี่แหม่มดูแลเรามา ดูแลคุณแม่มาก็มี 20 กว่าปี แล้วเป็นคนที่ซื่อสัตย์มาก เราก็อยากจะตอบแทนเค้า ลูกเค้าก็ยังเรียนงั้นก็มาอยู่ที่บ้าน เราจัดความเป็นธรรมเอาไว้ให้หมด

โอนโฉนดบ้านให้แม่บ้านครับ แม่บ้านก็รับไว้ เขาไม่อยากได้ ผมก็บอกว่ารับไว้เถอะ หลังจากนั้นผมก็อยู่ต่อซัก 9 เดือนที่เมืองไทยแล้วก็ลาสิกขาออกมา ไปขอแม่บ้านอยู่ครับ

เขาก็ถามว่าเรื่องบ้านจะเอาคืนไหม ผมก็บอกว่าผมให้แล้วผมไม่อยากผิดสัจจะ ก็อยู่กันไปอย่างนี้ก่อนแล้วกัน ให้ผมอยู่ผมก็ดีใจแล้ว ก็อยู่กันเป็นเหมือนครอบครัว จะเป็นของใครก็ได้ มันเป็นแค่ชื่อ แต่ผมได้มีที่ซุกหัวนอน

สุดท้ายพี่แหม่มก็พาไปกรมที่ดินแล้วก็โอนคืนให้ เขาบอกว่าเขาไม่ได้อยากรับแต่แรกอยู่แล้ว แต่เขาอยากดูแลให้

พินัยกรรมก็แบ่งเอาไว้แล้ว ก็มีไม่เยอะหรอกครับ ผมไม่ได้มีเป็นร้อยล้าน พันล้าน ถ้ามีเยอะทุกคนสบายหมดเลยนะ ผมใจป้ำมาก พินัยกรรมตอนนี้ก็แต่ละครั้งแต่ละครั้งไปครับ

จะทำด้วยวาจาก็ดี ลายลักษณ์อักษรก็ดีว่า ว่าอันไหนทำบุญ อันไหนแจกตรงไหน เราจะรู้ว่าอันไหนทำแล้วเกิดประโยชน์มากที่สุด

เรียบเรียงโดย ทีมงาน zap dara

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ