เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2568 นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับการครอบครองสิงโตในประเทศไทย โดยระบุว่า ขณะนี้มีผู้ขออนุญาตครอบครองสิงโตทั้งในนามบุคคลและสถานประกอบการ รวมทั้งสิ้น 85 ราย แบ่งเป็นสวนสัตว์ 10 แห่ง และเอกชนผู้เพาะพันธุ์สิงโตอีก 75 แห่ง รวมแล้วมีสิงโตอยู่ในการดูแลทั้งสิ้น 620 ตัว

ทั้งนี้ ตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2567 ซึ่งในขณะนั้นมีสิงโตเพียง 153 ตัว โดยจังหวัดที่มีการครอบครองสิงโตมากที่สุด 

1.ฉะเชิงเทรา: 8 ราย 119 ตัว

2.นครปฐม: 6 ราย 97 ตัว

3.พระนครศรีอยุธยา: 2 ราย 86 ตัว

4.นครราชสีมา: 2 ราย 55 ตัว

5.กรุงเทพฯ: 6 ราย 44 ตัว

6.ภูเก็ต: 9 ราย 43 ตัว

7.เชียงใหม่: 7 ราย 37 ตัว

8.มุกดาหาร: 2 ราย 31 ตัว

9.กาญจนบุรี: 2 ราย 22 ตัว

10.ชลบุรี: 11 ราย 21 ตัว

จังหวัดอื่น ๆ กระจายอีก 19 จังหวัด รวมกว่า 60 ตัว

นายอรรถพลเน้นว่า สิงโตถือเป็นสัตว์ป่าควบคุมชนิด ก. ซึ่งผู้ที่ประสงค์จะเลี้ยงหรือครอบครองต้องยื่นขออนุญาตกับกรมอุทยานฯ และมีมาตรการด้านความปลอดภัยที่ชัดเจนและเข้มงวด เนื่องจากสิงโตเป็นสัตว์ดุร้าย อาจก่อให้เกิดอันตรายหรือความตื่นตระหนกแก่ประชาชนได้

หากพบว่ามีการครอบครองโดยไม่แจ้ง หรือไม่ปฏิบัติตามระเบียบ กฎหมายกำหนดบทลงโทษไว้ดังนี้

ไม่แจ้งครอบครอง: จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ไม่ปฏิบัติตามระเบียบการควบคุม: จำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

กรมอุทยานฯ ย้ำว่าจะดำเนินการตรวจสอบการครอบครองสัตว์ป่าควบคุมอย่างเข้มงวด เพื่อความปลอดภัยของประชาชนและการคุ้มครองสัตว์ป่าอย่างถูกต้องตามกฎหมาย