
ต่าย อรทัย เล่าทั้งน้ำตา ชีวิตเกือบไม่ถึงฝัน ถ้าไม่เลือกเดินทางสายเพลง
เรียกได้ว่า หลายคนคงรู้จักกันเป็นอย่างดี กับ ศิลปินลูกทุ่งชื่อดัง ต่าย อรทัย ล่าสุด เธอ ได้เข้าร่วมรายการ เบิ้ล AM เล่าประสบการณ์ตั้งแต่เริ่มต้น จากสาวโรงงาน สู่การเป็นตำนานของวงการเพลงลูกทุ่งไทย พร้อมทั้งพูดถึงช่วงเวลาที่ยากลำบากในการทำงานหนัก จนเกือบหมดแรง และต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล รวมถึงความสัมพันธ์กับ คุณยาย ที่เป็นแรงบันดาลใจสำคัญในเส้นทางชีวิตของเธอ
โดย มีบางช่วงของรายการที่ พิธีกร ได้ถามถึงชีวิตที่ผ่านมาของเธอ ต่าย อรทัย เผยว่า เธอ เกิดที่บ้านคุ้มแสนชะนี อ.นาจะหลวย จ.อุบลราชธานี เป็นพื้นที่ชายแดนไทย-ลาว ตั้งแต่เด็ก เธอ ได้แสดงความสามารถด้านการร้องเพลงในกิจกรรมโรงเรียน ถึงแม้ ไม่มีเวทีประกวดมากนักในช่วงนั้น แต่ก็ได้รับการสนับสนุนจากครู และคนในหมู่บ้าน จนกระทั่ง ตอนที่เรียนมัธยมต้น เธอ เริ่มไปประกวดเพลง และได้พบกับ ดอกอ้อ ทุ่งทอง ที่ทำให้ เธอ มีแรงบันดาลใจในการเดินทางสายนี้ เส้นทางการเป็นนักร้องของ เธอ เริ่มต้นจริงจัง ปี 2544 เมื่อเซ็นสัญญากับแกรมมี่ และปล่อยเพลง ดอกหญ้าในป่าปูน ปี 2546 ตอนนั้น ยังเป็นศิลปินฝึกหัดที่ไม่รู้ว่า ผลงานจะไปได้ไกลขนาดไหน ความสำเร็จในเพลงนี้ทำให้ เธอ ได้รับโอกาส และเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างชื่อเสียงในวงการเพลงลูกทุ่ง
ต่อมา เธอ ยังได้เล่าถึงการทัวร์คอนเสิร์ตอย่างหนักในช่วงที่ทำอัลบั้มชุดที่ 5 และ 6 ส่งผลให้สุขภาพของ เธอ เริ่มทรุดลง จนต้องเข้าโรงพยาบาลรักษาตัวจากความเหนื่อยล้า และความเครียดที่สะสมจากการทำงานหนัก ทำให้ เธอ ได้เรียนรู้ว่า การรักษาสมดุลในชีวิต เป็นสิ่งสำคัญ และหลังจากนั้น ก็ปรับตารางชีวิตใหม่ให้เหมาะสม เพื่อดูแลสุขภาพทั้งร่างกาย และจิตใจ
อีกทั้ง เธอ ยังได้เผยอีกว่า หากไม่เดินสายเป็นนักร้อง เธอ คงต้องกลับไปทำงานในโรงงานเหมือนเดิม เนื่องจาก เธอ เป็นเด็กต่างจังหวัด ที่ไม่มีแผนชีวิตมากนัก แต่ก็ยอมรับว่า ประสบการณ์ในการทำงานโรงงานทำให้ เธอ เข้าใจถึงความยากลำบาก และความเป็นจริงในชีวิต จึงทำให้การเป็นศิลปินยิ่งมีค่ามากยิ่งขึ้น
สุดท้าย ต่าย อรทัย กล่าวขอบคุณทุกคนที่สนับสนุนเธอในเส้นทางอาชีพศิลปิน ทั้งครูบาอาจารย์ ทีมงาน และแฟนเพลงที่ทำให้ เธอ ยังคงอยู่ในวงการบันเทิงจนถึงทุกวันนี้
ภาพ จาก เบิ้ล AM
เรียบเรียงโดย news.in.th