เวียดนามกำลังอยู่ในช่วงเตรียมพร้อมขั้นสูงสุด เพื่อรับมือกับ “พายุวิภา” ซึ่งคาดว่าจะเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งในช่วงเช้าวันอังคารที่ 22 กรกฎาคมนี้ บริเวณระหว่างจังหวัดไฮฟองและทัญฮว้า โดยพายุลูกนี้แม้อ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน แต่ยังคงก่อให้เกิดฝนตกหนัก ลมแรง เสี่ยงต่อดินถล่มในพื้นที่ภูเขา และน้ำท่วมในหลายพื้นที่รวมถึงกรุงฮานอย

นายกรัฐมนตรีฝั่ม มิงห์ จิ๋งห์ ระบุว่า พายุวิภาถือเป็นพายุที่รุนแรง เคลื่อนตัวเร็ว และจะสร้างผลกระทบในวงกว้างทั้งทางบกและทางทะเล รัฐบาลจึงได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานเตรียมรับมือเต็มที่ รวมถึงสั่งให้เรือประมง เรือสินค้า และเรือท่องเที่ยวทั้งหมดกลับเข้าฝั่ง พร้อมเรียกร้องให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงอพยพขึ้นที่สูง

ก่อนหน้านี้พายุลูกนี้ได้พัดถล่มฟิลิปปินส์ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 คน และมีรายงานผู้สูญหายอีก 7 คน ขณะเดียวกันมีประชาชนกว่า 800,000 คนที่ได้รับผลกระทบ โดยในจำนวนนั้น 90,000 คนต้องอพยพออกจากบ้านพัก

ในเวียดนามเอง ทางการต้องสั่งหยุดให้บริการเรือท่องเที่ยวทุกลำในอ่าวฮาลองเบย์ ซึ่งมีเรือครูซหลายร้อยลำเข้าเทียบท่าเป็นการชั่วคราว หลังจากเกิดเหตุเรือล่มจากพายุฝนฟ้าคะนองเมื่อสุดสัปดาห์ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 37 คน และยังมีผู้สูญหายอีก 5 คน

ด้านสำนักงานการบินพลเรือนเวียดนาม (CAAV) สั่งปิดสนามบินนานาชาติวานโดน จังหวัดก๋วงนินห์ และสนามบินก๊าตบี จังหวัดไฮฟอง ตั้งแต่เวลา 23.00 น. ของวันที่ 21 ก.ค. ถึง 12.00 น. วันที่ 22 ก.ค. เพื่อความปลอดภัยจากพายุที่กำลังจะเข้าถึง

สายการบินต่างๆ ได้ยกเลิกเที่ยวบินล่วงหน้าแล้วหลายเที่ยวบิน โดยเวียดนาม แอร์ไลน์ส และแปซิฟิก แอร์ไลน์ส ยกเลิกเที่ยวบินในประเทศรวม 9 เที่ยวในวันจันทร์ ส่วนเวียดเจ็ต ซึ่งเป็นสายการบินต้นทุนต่ำ ยกเลิกไปแล้ว 12 เที่ยว รวมถึงเที่ยวบินระหว่างประเทศไปเกาหลีใต้

ขณะเดียวกัน หน่วยกู้ภัยและเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นถูกส่งไปประจำในหลายพื้นที่เพื่อช่วยเหลือประชาชน พร้อมทั้งจัดเตรียมอาหาร ยา และมาตรการป้องกันโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะระบบโทรคมนาคม

พื้นที่เกษตรกรรมกว่า 150,000 เฮกตาร์ และกระชังเลี้ยงปลาแบบลอยน้ำกว่า 20,000 แห่งทั่วประเทศกำลังอยู่ในภาวะเสี่ยงจากฝนตกหนักและลมแรงที่อาจเกิดจากพายุวิภา