เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2568เกิดเหตุการณ์ตึงเครียดในภูมิภาคตะวันออกกลางอีกครั้ง เมื่อ กองกำลังป้องกันประเทศอิสราเอล (IDF) เปิดฉากโจมตีทางอากาศเข้าใส่กรุงดามัสกัส เมืองหลวงของซีเรีย เป้าหมายคืออาคาร กระทรวงกลาโหม และพื้นที่ใกล้เคียง ทำเนียบประธานาธิบดี ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 ราย และบาดเจ็บอีก 34 คน ซีเรียประณามอิสราเอลอย่างรุนแรงหลังเหตุโจมตี กระทรวงการต่างประเทศของซีเรียออกแถลงการณ์ประณามอิสราเอลทันที โดยระบุว่า การโจมตีดังกล่าวเป็น นโยบายที่มุ่งกระพือความขัดแย้ง แพร่ความวุ่นวาย และบ่อนทำลายเสถียรภาพของประเทศ พร้อมย้ำว่า อิสราเอลต้องรับผิดชอบอย่างเต็มที่ต่ออันตรายที่เกิดขึ้น และผลกระทบที่ตามมา ทางการซีเรียระบุเพิ่มเติมว่า การโจมตียังทำให้เกิด ความเสียหายอย่างหนักต่อโครงสร้างพื้นฐานและระบบบริการสาธารณะ ในพื้นที่โดยรอบอย่างกว้างขวาง

เบื้องหลังความขัดแย้งปมชาวดรูซ การโจมตีของอิสราเอลมีขึ้นเพียงไม่กี่วัน หลังเกิดเหตุปะทะในพื้นที่ภูเขาระหว่าง กลุ่มติดอาวุธชาวดรูซ และกองกำลัง ชาวเบดูอิน เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ก่อนที่ในวันที่ 14 กรกฎาคม รัฐบาลซีเรียจะส่งทหารเข้าควบคุมสถานการณ์ ซึ่งจบลงด้วยการเผชิญหน้ากับชาวดรูซอีกครั้ง อิสราเอลให้เหตุผลว่าการโจมตีในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการ ปกป้องชาวดรูซ ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยที่มีความสำคัญกับอิสราเอล ชาวดรูซทั่วโลกมีประชากรราว 1 ล้านคน โดยกว่าครึ่งอาศัยอยู่ในซีเรีย และส่วนที่เหลือกระจายตัวอยู่ในเลบานอนและอิสราเอล ในอิสราเอลชาวดรูซถือเป็นกลุ่มที่ได้รับการยอมรับสูง หลายคนสมัครเข้ารับราชการทหารและมีบทบาทในความมั่นคงของรัฐ อย่างไรก็ตาม ชาวดรูซในซีเรียจำนวนไม่น้อยไม่เห็นด้วยกับการที่อิสราเอลเข้ามาแทรกแซงในนามของพวกเขานักวิเคราะห์บางรายเชื่อว่า การโจมตีครั้งนี้มีเป้าหมายทางยุทธศาสตร์ที่ลึกซึ้งยิ่งกว่า โดยอิสราเอลต้องการ สกัดไม่ให้รัฐบาลซีเรียที่เพิ่งจัดตั้งขึ้นใหม่สามารถเสริมอำนาจและสร้างความแข็งแกร่ง ได้ในระยะเวลาอันสั้น ซึ่งอาจกลายเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของอิสราเอล โดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดนทางตอนเหนื