เมื่อวันที่ 9 ก.ค. 68 ที่ผ่านมา นายปรีชา กิจถาวร นายกสมาคมการค้าผู้เลี้ยงสุกรภาคใต้ ได้ออกมาแสดงความกังวลกรณีที่หากรัฐบาลมีนโยบายให้มีการนำเข้าสุกรจากต่างประเทศเข้าสู่ตลาดไทย โดยชี้ว่า หากรัฐบาลเดินหน้าตามแนวทางดังกล่าว จะส่งผลกระทบกับผู้เลี้ยงสุกรไทยอย่างเลี่ยงไม่พ้น โดยเฉพาะภาคเกษตรกรรายเล็กและขนาดกลางภาคใต้ จะได้รับความเสียหายทั้งหมด ส่วนผู้เลี้ยงรายใหญ่มีสายป่านยาวจะมีการปรับตัวและไปได้

นายปรีชาระบุว่า ปัจจัยเกื้อหนุนที่ส่งผลกับเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรไทย เพราะต้นทุนการผลิตสุกรเกษตรกรไทยจะมีต้นทุนสูงกว่าประมาณ 50 % ขณะที่ต่างประเทศต้นทุนการผลิตต่ำกว่า 50 % เพราะต่างประเทศโดยเฉพาะสหรัฐ ผลผลิตจะมีปริมาณมาณที่สูง และจะเป็นฟาร์มขนาดใหญ่ และการเลี้ยงการเกิดโรคก็น้อยมาก

เขายังยกตัวอย่างสถานการณ์ล่าสุดของเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรไทย ที่ต้องประสบภาวะขาดทุนหนักและต้องยุติกิจการไปเป็นจำนวนมากเมื่อเร็ว ๆ นี้ คือมีการนำเข้าหมูเถื่อนจากต่างประเทศ เพราะจำหน่ายราคา กิโลละประมาณ 50 บาท ขณะที่สุกรของเกษตรกรไทย ต้นทุนการผลิตอยู่ที่กิโลละ 80 บาท และหากมีการนำเข้าจะส่งผลให้เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรทางภาคใต้ จะอยู่ไม่ได้แน่นอน

นอกจากนี้ยังกล่าวถึงกรณีของประเทศเวียดนาม ที่มีการเจรจาเรื่องภาษีการค้ากับสหรัฐ ในที่สุดประเทศเวียดนามมีภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐ 0% ในขณะที่เวียดนามมีการลงทุนเลี้ยงสุกรเช่นเดียวกัน

กรณีของเวียดนามจึงเป็นประเด็นที่น่าจับตา ทั้งในแง่ของการตอบรับจากผู้บริโภคต่อสุกรนำเข้า และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับผู้เลี้ยงสุกรภายในประเทศ เมื่อต้องแข่งขันกับสินค้านำเข้าต้นทุนต่ำในตลาดเดียวกัน