
เดือนนี้เงินเข้าไวขึ้น เปิดวันโอนเงิน 3 กลุ่ม เดือน ก.ค. 68
เงินเยียวยา 3 กลุ่มเปราะบาง เดือนกรกฎาคม 2568 ได้แก่ เงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด , เงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และ เบี้ยผู้พิการ โดย กรมบัญชีกลาง จะจ่ายเงินเยียวยาโอนเงินเข้าบัญชี ในทุกวันที่ 10 ของเดือน แต่หากตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์ วันเสาร์-อาทิตย์ จะทำการโอนให้ล่วงหน้าก่อนในวันเวลาราชการ สำหรับในเดือนกรกฎาคม 2568 เดือนนี้เงินเข้าไวขึ้น โดยจะโอนเงินเข้าในวันที่ 9 กรกฎาคม 2568 เนื่องจากวันที่ 10 กรกฎาคม 2568 เป็นวันหยุดอาสาฬหบูชา เช็กแต่ละกลุ่มได้เงินกี่บาท
1. เงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด
เงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด หรือ เงินอุดหนุนบุตร เป็นโครงการของกรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระในการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดของพ่อแม่ผู้ปกครอง โดยมีเงื่อนไขสำคัญคือต้องเป็นเด็กที่มีสัญชาติไทย อาศัยอยู่กับบิดามารดา หรือผู้ปกครองที่ครัวเรือนมีรายได้เฉลี่ยไม่เกิน 100,000 บาทต่อคนต่อปี โดยจะได้รับเงินอุดหนุนบุตร ตั้งแต่เด็กแรกเกิดจนถึงอายุ 6 ปี จำนวน 600 บาทต่อคนต่อเดือน และไม่จำกัดจำนวนบุตร
สำหรับพ่อแม่ที่คุณสมบัติตรงเงื่อนไข สามารถยื่นลงทะเบียนรับเงินอุดหนุนบุตร 600 บาท ได้ตลอด โดยติดต่อลงทะเบียนได้ในพื้นที่ที่เด็กแรกเกิดและผู้ปกครองอาศัยอยู่จริง ได้แก่
กรุงเทพมหานคร ลงทะเบียนได้ที่สํานักงานเขต
เมืองพัทยา ลงทะเบียนได้ที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา
ส่วนภูมิภาค ลงทะเบียนได้ที่องค์การบริหารส่วนตําบล หรือเทศบาล
ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชั่น เงินเด็ก โดยผู้ปกครองต้องพิสูจน์และยืนยันตัวตนผ่าน แอปพลิเคชัน ThaID ของกรมการปกครองก่อน เมื่อตรวจสอบสิทธิผ่านแล้ว จะได้รับเงินมีผล ตั้งแต่เดือนที่ลงทะเบียนรับเงิน
2. เงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ
เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ โดยช่วยเหลือผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป เพื่อเป็นเงินช่วยเหลือ และแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตในแต่ละเดือน รายละ 600-1,000 บาท ตามเกณฑ์อายุ ดังนี้
อายุ 60-69 ปี ได้รับ 600 บาทต่อเดือน
อายุ 70-79 ปี ได้รับ 700 บาทต่อเดือน
อายุ 80-89 ปี ได้รับ 800 บาทต่อเดือน
อายุ 90 ปี ขึ้นไป ได้รับ 1,000 บาทต่อเดือน
คุณสมบัติของผู้มีสิทธิได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ
1. มีสัญชาติไทย
2. เป็นผู้สูงอายุที่มีอายุเกิน 60 ปี ยังไม่เคยลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ
3. เป็นผู้มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ ในปีงบประมาณ 2569 นับอายุจนถึงวันที่ 1 กันยายน 2568 (เกิดตั้งแต่ 2 กันยายน 2508 – 1 กันยายน 2509)
4. ไม่เป็นผู้ได้รับสวัสดิการหรือสิทธิประโยชน์อื่นใดจากหน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้แก่
ผู้รับเงินบํานาญ เบี้ยหวัด บํานาญพิเศษหรือ เงินอื่นใดในลักษณะเดียวกัน
ผู้สูงอายุที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ของรัฐหรือ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ผู้ได้รับเงินเดือน ค่าตอบแทน รายได้ประจํา หรือผลประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นที่รัฐหรือองค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่นจัดให้เป็นประจํา
เอกสารที่ต้องเตรียม
บัตรประจําตัวประชาชน หรือ บัตรอื่นที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐ ที่มีรูปถ่าย
ทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน (ที่เป็นปัจจุบัน)
สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร ในนามผู้มีสิทธิ/ผู้ได้รับมอบอํานาจ จากผู้มีสิทธิ (สําหรับกรณีประสงค์ รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุผ่านธนาคาร)
*ในกรณีผู้สูงอายไม่สามารถมาลงทะเบียนด้วยตนเองได้ สามารถมอบอํานาจเป็นลายลักษณ์อักษร ให้ผู้อื่นเป็นผู้ยื่นคําขอรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุแทนได้*
สำหรับสถานที่ลงทะเบียน สามารถลงทะเบียนได้ที่ สํานักงานเขต หรือองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นที่ผู้สูงอายุมีภูมิลําเนา
3. เบี้ยผู้พิการ
ผู้พิการทุกคนที่มีบัตรประจำตัวคนพิการมีสิทธิลงทะเบียนขอรับ "เบี้ยความพิการ" ได้เงินคนละ 800-1,000 บาทต่อเดือน ดังนี้
ผู้พิการที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี จะได้รับเงิน 1,000 บาทต่อเดือน
ผู้พิการที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป จะได้รับเงิน 800 บาทต่อเดือน
ทั้งนี้ หากเป็นคนพิการอายุ 18 ปีขึ้นไป ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ก็จะสามารถกดเพิ่มจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจนอีก 200 บาทต่อเดือน รวมได้รับรายละ 1,000 บาทต่อเดือน
ผู้พิการสามารถติดต่อขึ้นทะเบียนคนพิการ ได้ที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ตั้งอยู่ที่ศาลากลางจังหวัดในทุกจังหวัด) หรือพื้นที่กรุงเทพฯ ติดต่อได้ที่ กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ , ศูนย์บริการคนพิการกรุงเทพมหานคร