
ตั้ม วราวุธ เปิดใจเล่าครั้งแรก หลังประสบอุบัติเหตุ ยกคุณพ่อเป็นทนายจัดการคู่กรณี ลั่นเอาให้ถึงที่สุด
จากกรณีที่ก่อนหน้านั้น ด้านพิธีกรและนักร้องหนุ่ม อย่าง ตั้ม วราวุธ หรือ ตั้ม เดอะสตาร์ ที่ประสบอุบัติเหตุ ล่าสุด ตั้มได้เปิดใจครั้งแรกกับสื่อ หลังประสบอุบัติเหตุ อีกทั้งตนได้เปิดใจหร้อมอัปเดตอาการว่า สำหรับเรื่องประสบอุบัติเหตุถ้าอัปเดตตอนนี้ แผลข้างในไหมยังละลายไม่หมด ส่วนข้างนอกเย็บเป็นปกติได้มีการตัดใหม่ไปแล้วประมาณอาทิตย์กว่า ก็ยังมีเจ็บๆ ตึงๆอยู่
โดยรวมตอนนี้จาก 100% ผมว่าดีขึ้นประมาณ 70% แล้ว คือข้างนอกยังโอเคมากๆ ผมทำทุกอย่างที่จะให้ทำงานได้เร็วขึ้น ก็เลยมีการไปฉีดสเต็มเซลด้วย และไปหาหมอฟันเพราะฟันหน้าผมหายไปเลยสามซี่ ผมเลยต้องไปใส่วีเนียร์ชั่วคราวเพราะวีเนียร์ปกติใส่ไม่ได้ ซึ่งตรงแผลที่ปากยังไม่สมบูรณ์ ส่วนแผลในจมูกตอนนี้ถ้าโดนเยอะๆ ก็ยังเจ็บอยู่เพราะว่าดั้งแล้วหัก และแผลที่ฉีกคือมันฉีกแบบเห็นฟันเลย ดังนั้นเวลาเย็บกลับมามันเหมือนตรงกลางมันยังไม่สมานและมันก็ยังแข็งเป็นไตๆ อยู่เวลาโดนอะไรแรงๆ ก็ยังรู้สึกเจ็บ
ในเรื่องของจมูกเราแค่ดัดกลับ ส่วนปากคือผมโชคดีที่ได้หมอศัลอันดับหนึ่งของโรงพยาบาล เขาก็เย็บให้ ซึ่งหลายคนก็ชมว่าแผลสวย ขอบคุณคุณหมอมากๆ ส่วนร่างกายส่วนอื่นก็จะมีแขนในวันที่ผมประสบอุบัติเหตุวันแรก แขนข้างซ้ายผมไม่สามารถยืดได้ เหมือนมันช้ำที่เอ็นข้อศอก ตอนนี้ก็กายภาพและไปฉีดสเต็มเซลเข้าที่ข้อศอกมาแล้ว ตอนนี้ก็ดีขึ้นมากเกือบ 100% แล้ว
เหตุการณ์ประสบอุบัติเหตุในครั้งนี้ร้ายแรงที่สุดในชีวิตเลยครับ เพราะว่ามันจะมีเหตุการณ์ที่มันเป็นอุบัติเหตุจริงๆ คือจ๊ะเอ๋เราตั้งตัวไม่ทันรู้สึกตัวอีกทีก็มีคนเข้ามาพยุงเรา พอรู้สึกตัวแล้วคือมันชา ตอนแรกมันปะกันเลย พอผมลุกขึ้นมาผมรู้สึกชาแบบไม่รู้สึกเจ็บ ไม่รู้ว่าตัวเองเลือดออก จนพี่ที่เขามาพยุงผม เขาบอกว่าน้องเดี๋ยวไปนั่งข้างทางก่อนเพราะเลือดออกเยอะมาก พอเราก้มดูเลือดมันไหลออกมา เราก็เลยเช็คฟันเราก่อนคือมันไม่รู้สึกนะแต่รู้ว่ามันเป็นตอ ผมก็เลยถามพี่เขาว่า พี่หน้าผมเป็นอะไรบ้าง เขาตอบกลับมาว่ามันมองไม่ออกเลยเพราะเลือดมันชุ่ม
จนหมวยแฟนผมมาที่เกิดเหตุ ผมก็ถามว่าหน้าเป็นยังไงบ้าง เขาก็พยายามปลอบใจเรา แค่ถลอก แต่คุณป้าข้างข้างที่มาช่วยบอกว่าฉีกเลยลูก ผมก็บอกว่าฉีกเลยหรอ ใจตอนนั้นคือฉีกขั้นไหน ผมเลยเซลฟี่ตัวเองแต่ก็มองไม่ออกเพราะว่าเลือดมันกลบปาก แต่คุณป้ามองออกว่าฉีก แล้วตอนนั้นผมไม่สามารถนอนได้ เพราะตอนที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้นเขาก็ให้เรานอนแต่เรานอนไม่ได้เพราะปวดหัวมาก ก็เลยคิดว่าเราจะสูญเสียความทรงจำไหม กลัวว่าสมองจะไม่เหมือนเดิม
สำหรับเรื่องคดีความ กล้องวงจรปิดมีหมดแล้ว แล้วก็ส่วนเรื่องคดีความผมให้ พ่อ ผมจัดการ โชคดีที่คุณพ่อเป็นทนายความก็จะเร็วหน่อย คือผมไม่อยากไปโฟกัสเรื่องนี้แล้ว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคือ รถเป็นเลนสวนผมขับตามรถกระบะมา แล้วรถกระบะเลี้ยวเข้าซอยผมก็ต้องขับตรงไปเพราะยังไม่ถึงจุดหมายของผม ซึ่งเราไปด้วยความเร็วคงที่เราไม่ได้แซง เราตรงไปปกติของเราแล้วเค้าออกจากซอยที่รถกระบะเข้าแล้วมันตัดกันพอดี ซึ่งกล้องที่จับได้ก็เป็นภาพนี้เลย ส่วนคู่กรณีตอนนี้เราก็ยังไม่ได้คุยกัน เห็นมีบอกว่าญาติเขาจะนัดเจอวันที่ 11 คือวันพรุ่งนี้ เพราะจะไปเอามอเตอร์ไซค์ที่สถานีตำรวจ เขาก็เลยจะให้คุยกันพรุ่งนี้ ก็เป็นครั้งแรกที่ผมจะได้เจอญาติของคู่กรณี