งานนี้ ทำเอาหลายๆ คนต่างตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับคดี เสก โลโซ สาเหตุศาลไม่รอลงอาญา โดยศาลฎีกาพิพากษาสั่งจำคุก เสก โลโซ 2 ปี 12 เดือน 20 วัน คดีต่อสู้เจ้าพนักงาน และเสพยา สุดท้ายปืน

เรื่องนี้ ทำให้ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ได้ออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลส่วนตัว เพื่อคลายข้อสงสัย คดี เสก โลโซ ว่า ถ้าจะถามว่าทำไมคดีนี้ถึงไม่รออาญา... ต้องเริ่มจากปืนในมือนั่นแหละครับ และหลายคนสงสัยว่าทำไม เสก โลโซ ศิลปินชื่อดังถึงไม่รอดจากการ รอการลงโทษ เหมือนคดีอาญาทั่วไป ทั้งที่ดูเผิน ๆ เหมือนเขาแค่ดื้อกับตำรวจ? คำตอบสั้น ๆ คือ เพราะปืนในมือเขาไม่ใช่แค่ของเล่น

ล่าสุด ทนายรณรงค์ ได้เล่าย้อนไปอีกว่า จุดเริ่มจาก 10 นัด บนฟ้า ถึงนาทีขัดขวางตำรวจ เรื่องนี้เกิดขึ้นช่วงปลายปี 2560 โดยมี 2 เหตุการณ์สำคัญ คือ

1. ยิงปืนขึ้นฟ้า วันที่ 29 ธันวาคม 2560 นายเสกสรรค์ ศุขพิมาย หรือ "เสก โลโซ" เดินทางไปประกอบพิธีที่วัดเขาขุนพนม จ.นครศรีธรรมราช และภายหลังได้ ยิงปืนขึ้นฟ้า 10 นัด โดยอ้างว่าเป็นการยิงถวาย ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องมี : มาตรา 376: ยิงปืนในที่สาธารณะ และพ.ร.บ.อาวุธปืนฯ: พกพาอาวุธปืนโดยไม่มีเหตุอันควร

2. ไม่ยอมให้จับ - ขัดขวางโดยมีอาวุธ ต่อมาในวันที่ 31 ธันวาคม 2560 เจ้าหน้าที่ตำรวจนำหมายจับไปที่บ้านพักของเสก โลโซที่ จ.นครนายก เพื่อดำเนินคดี สิ่งที่เกิดขึ้นคือ เสก ตะโกน ขัดขืน ด่าทอ และมีอาวุธปืนอยู่ในบ้าน ทำให้การจับกุมต้องใช้กำลังเข้าควบคุมสถานการณ์ และมีการตรวจพบสารเสพติดในร่างกาย

ซึ่ง พฤติกรรมแบบนี้...ไม่ใช่เรื่องเล็ก คนทั่วไปอาจคิดว่า แค่ดื้อ ไม่ให้จับ...จะถึงกับติดคุกเลยหรือ แต่ในทางกฎหมาย การขัดขวางเจ้าหน้าที่โดยมีอาวุธก็เท่ากับเรื่องใหญ่

ทนายรณรงค์ ยังเผยอีกว่า บทกฎหมายสำคัญที่ใช้ในคดีนี้ มาตรา 138 วรรคสอง ผู้ใดต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานโดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี มาตรา 140 วรรคหนึ่ง ถ้าการกระทำตาม ม.138 มี "อาวุธ" หรือกระทำร่วมกัน 3 คนขึ้นไป เพิ่มโทษเป็นจำคุกไม่เกิน 5 ปี มาตรา 140 วรรคสาม ถ้าใช้อาวุธ ปืน หรือ วัตถุระเบิด ต้อง เพิ่มโทษหนักขึ้นอีกกึ่งหนึ่ง จาก 5 ปี  ไปจนถึง 7 ปี 6 เดือน นั่นเอง

โดย วิเคราะห์แบบชัด ๆ: เสก โลโซ "ไม่รออาญา" เพราะเข้าข่ายเพิ่มโทษเต็มขั้น คือเขา ไม่เพียงแค่ขัดขืนเจ้าพนักงาน แต่ยัง มีอาวุธปืน และปืนที่มีก็ บรรจุกระสุน พร้อมยิง เมื่อเข้าเงื่อนไข มีอาวุธปืนก็เท่ากับศาลต้องใช้มาตรา 140 วรรคสาม ซึ่งนำไปสู่การ เพิ่มโทษ ครึ่งหนึ่ง จากโทษเดิมครับ

อีกทั้งยัง ทนายรณรงค์ ยังตอบคำถามชาวเน็ตที่ถามว่า แล้วทำไมศาลถึงไม่รออาญา โดย ทนายรณรงค์ ได้ตอบว่า ตาม มาตรา 56 ประมวลกฎหมายอาญา ศาลจะรอการลงโทษได้ก็ต่อเมื่อ จำเลย สำนึกผิด จำเลยไม่เป็นภัยต่อสังคม และมีแนวโน้มจะ กลับตัวเป็นพลเมืองดี แต่เสก โลโซ ในช่วงเกิดเหตุ ไม่ได้สำนึก กลับใช้ปืน ขัดขืนตำรวจอย่างเปิดเผย ศาลจึงเห็นว่า ไม่เข้าเงื่อนไขที่สมควรจะเมตตาให้รออาญา ถ้าเทียบเคียงคดีอื่น เสกไม่ใช่รายแรก คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 692/2561 จำเลยซ่อนปืนไว้ใต้เบาะในรถ จำเลยปืนมีกระสุนบรรจุพร้อมยิง และศาลตีความว่า มีอาวุธพร้อมใช้ สุดท้ายลงโทษตามมาตรา 140 วรรคสาม เช่นเดียวกับกรณีเสก โลโซ

ล่าสุด ทนายรณรงค์สรุปว่า เปรี้ยวได้...แต่อย่าเปรี้ยวผิดที่ กฎหมายไม่ได้กลัวชื่อเสียงใคร ต่อให้คุณเป็นร็อกสตาร์แค่ไหน ถ้า ด่าตำรวจ และถือปืนพร้อมขัดขืนการจับกุม ก็หนีไม่พ้นการลงโทษที่เข้มข้นตามบทกฎหมาย เพราะเจ้าหน้าที่ที่รักษากฎหมายต้องได้รับความคุ้มครอง

เรียบเรียงโดย news.in.th