ช็อก! กินชาบูร้านดังอยู่ดีๆ นึกว่าเคี้ยวน้ำตาล ที่ไหนได้ต้องเข้าห้องฉุกเฉินด่วน

ช็อก! กินชาบูร้านดังอยู่ดีๆ นึกว่าเคี้ยวน้ำตาล ที่ไหนได้ต้องเข้าห้องฉุกเฉินด่วน

จากเว็บต่างประเทศ ได้รายงานว่า เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2568 ที่ร้านหม้อไฟเผ็ดชื่อดัง สาขาซินอี้ ในกรุงไทเป ไต้หวัน เมื่อลูกค้าชายรายหนึ่งกัดเจอ เศษแก้วในไอศกรีม จนได้รับบาดเจ็บ และต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล

ผู้เสียหายรายนี้ชื่อว่า คุณหยาง ได้โพสต์เรื่องราวผ่านโซเชียลมีเดีย หลังเข้าไปรับประทานอาหารที่ร้านในช่วงบ่าย ระหว่างกำลังทานไอศกรีมคาราเมลที่ทำจากน้ำตาลไหม้ เขากลับรู้สึกว่ามีวัตถุกรอบผิดปกติอยู่ในปาก ในตอนแรกคิดว่าอาจเป็นคาราเมลแข็งๆ หรือเศษน้ำตาล แต่เมื่อเคี้ยวไปกลับพบว่าเป็นเศษแก้วแตกละเอียดจำนวนหลายชิ้น หลังจากถุยออกมาก็พบว่ามีเลือดออกในลำคอ และรู้สึกแน่นหน้าอก จึงรีบไปโรงพยาบาลทันที ซึ่งแพทย์แนะนำให้เฝ้าระวังอาการต่อเนื่องเป็นเวลา 3 วัน เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากการบาดเจ็บภายใน

ไม่เพียงเท่านั้น แต่สิ่งที่ทำให้หลายคนยิ่งรู้สึกไม่พอใจต่อเหตุการณ์ในครั้งนี้ก็คือ เมื่อคุณหยางแจ้งให้พนักงานทราบ ผู้จัดการร้านกลับตอบเพียงว่า จะตรวจสอบ โดยไม่ให้ความช่วยเหลือใดๆ ที่ชัดเจน อีกทั้งคุณหยางยังเปิดเผยด้วยว่า หลังจากนั้นเขาถูกพนักงานตามกดดันให้ลบโพสต์ร้องเรียน นานถึง 20 นาที ทำให้เขารู้สึกว่าทางร้านพยายามปกปิดความผิดพลาดที่เกิดขึ้นกับลูกค้า

ต่อมา วันที่ 2 พฤษภาคม สำนักงานสาธารณสุขกรุงไทเป ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบร้านดังกล่าว พบปัญหาเกี่ยวกับสุขอนามัยและความปลอดภัยด้านอาหารหลายรายการ เช่น วัตถุดิบในตู้แช่ไม่มีฝาปิด, ไม่มีบันทึกอุณหภูมิตู้แช่แข็ง และไม่มีเอกสารยืนยันแหล่งที่มาของไอศกรีม ซึ่งร้านได้รับคำสั่งให้แก้ไขก่อนวันที่ 5 พฤษภาคม มิฉะนั้นจะถูกดำเนินการตามกฎหมาย

ด้านเจ้าของธุรกิจชี้แจงว่า เหตุเกิดจากถังบรรจุวัสดุแตกในระหว่างกระบวนการผลิต ซึ่งได้ทำการตรวจสอบถังทั้งหมดในทุกสาขาทันที พร้อมเปลี่ยนถังที่มีร่องรอยเสียหาย ส่วนลูกค้าที่ได้รับความเสียหายรายนี้ ก็ได้พาไปรักษาที่โรงพยาบาล และมอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว

ทั้งนี้ ตามรายงานยังระบุด้วยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นไม่นานหลังจากกรณี พบแมลงสาบในเต้าหู้ที่ตลาดกลางคืนเมืองจีหลง ซึ่งสร้างความไม่พอใจแก่สาธารณชนเป็นอย่างมาก โดยล่าสุดทางการได้สั่งปิดโรงงานผลิตเต้าหู้ที่เกี่ยวข้องชั่วคราว เพื่อทำความสะอาดและปรับปรุงมาตรฐานสุขอนามัย

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ