หลังจาก นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดมาตรการ “ยกระดับความปลอดภัยในการใช้โมบายแบงกิ้ง (Mobile Banking)” ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ โดยเฉพาะแก๊งคอลเซ็นเตอร์และบัญชีม้า เพื่อให้ชื่อบัญชีโมบายแบงก์กิ้งตรงกับชื่อเจ้าของซิมมือถือ

จากการตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์แบ่งผู้ใช้งานเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่

1.กลุ่ม Y แจ้งชื่อเจ้าของซิม และชื่อบัญชีโมบายแบงก์กิ้งตรงกัน

2.กลุ่ม N ชื่อเจ้าของซิม และบัญชีโมบายแบงก์กิ้งไม่ตรงกัน

3.กลุ่ม P ไม่พบชื่อเจ้าของซิม/ไม่มีข้อมูล

เบื้องต้นธนาคารจะแจ้งลูกค้ากลุ่ม N และกลุ่ม P ผ่านโมบายแบงก์กิ้งตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.68 ประชาชนที่ได้รับแจ้งต้องอัปเดตข้อมูลชื่อเจ้าของซิม และชื่อผู้ใช้งานบัญชีโมบายแบงก์กิ้ง หรือแอพธนาคารให้ตรงกันภายใน 90 วัน สิ้นสุดวันที่ 30 เม.ย.68 ไม่เช่นนั้นจะถูกระงับใช้งานชั่วคราว วิธีเช็กชื่อเจ้าของเบอร์โทรศัพท์ค่ายมือถือ AIS, TrueMove H และ DTAC

เช็กชื่อเจ้าของเบอร์ AIS / กด *545# แล้วกดโทร. ออก

เช็กชื่อเจ้าของเบอร์ TrueMove H / กด *933# แล้วกดโทร. ออก

เช็กชื่อเจ้าของเบอร์ DTAC / กด *102# แล้วกดโทร. ออก

ชื่อซิมไม่ตรงกับบัญชีโมบายแบงก์กิ้ง หรือแอพฯธนาคารทำอย่างไร

ธนาคารกรุงไทย แนะนำวิธีดำเนินการ หากชื่อเจ้าของซิมเบอร์มือถือไม่ตรงกับชื่อบัญชีโมบายแบงก์กิ้ง (Mobile Banking) ที่ผูกไว้ ดังนี้

สำหรับวิธีการตรวจสอบความเป็นเจ้าของหมายเลขโทรศัพท์ด้วยตนเอง กด *179*หมายเลขบัตรประชาชน 13 หลัก# แล้วกดโทรออก ถ้าพบว่าชื่อเจ้าของเบอร์โทรศัพท์มือถือไม่ตรงกับชื่อบัญชีในแอพธนาคาร หรือโมบายแบงก์กิ้ง สามารถดำเนินการได้ดังนี้

1.ติดต่อผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ เพื่อขอเปลี่ยนแปลงชื่อเจ้าของเบอร์โทรศัพท์มือถือให้ตรงกับชื่อบัญชีแอพธนาคาร

2.ติดต่อสาขาของธนาคาร เพื่อเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ที่ผูกกับแอพธนาคารให้ตรงกับชื่อเจ้าของเบอร์โทรศัพท์มือถือ

3.กรณีต้องการขอยกเว้นมาตรการนี้ ท่านสามารถติดต่อสาขาของธนาคาร เพื่อยื่นคำขอเข้ากลุ่มยกเว้น เช่น บุคคลในครอบครัว ผู้ไร้ความสามารถ ผู้เสมือนไร้ความสามารถ ผู้พิการ และกลุ่มนิติบุคคล โดยต้องแสดงเอกสารยืนยันตัวตนและเอกสารพิสูจน์ความสัมพันธ์ ภายใน 30 เม.ย.68

หากครบกำหนดภายหลังวันที่ 30 เม.ย.68 จะมีมาตรการดังนี้

1.ธนาคารจะส่งข้อมูลผู้ใช้โมบายแบงกิ้ง ที่เป็นปัจจุบันถึงวันที่ 30 เม.ย.68 ไปให้ผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือ (โอเปอเรเตอร์)

2.โอเปอเรเตอร์จะนำข้อมูลดังกล่าวที่ภาคธนาคารส่งผ่านระบบของ ปปง. ไปตรวจสอบกับข้อมูลลูกค้าของตนเองว่าเป็นกลุ่มใดแล้วส่งกลับให้ธนาคาร