จาก อดีตนักแสดงเด็กพรสวรรค์สูง ที่ถูกจับตามองว่าจะก้าวขึ้นสู่ นางเอกระดับเอลิสต์ของวงการ บันเทิงเกาหลี สู่ชีวิตที่พลิกผันเพียงชั่วพริบตา กับ คดีเมาแล้วขับ ที่ทําให้เธอสูญเสียทุกอย่าง แม้ กระทั่งลมหายใจ "คิมแซรน" ดาราเด็กอนาคตไกล ที่ใครๆ ก็เคยเชื่อว่าเธอจะเป็นตํานาน แต่กลับกลายเป็นชื่อที่ถูก พูดถึงในอีกแง่มุมหนึ่ง เมื่อเธอต้องเผชิญแรงกดดันทั้งจากกฎหมาย สื่อ และประเด็นดราม่าความ สัมพันธ์ที่ถูกเปิดเผยออกมาหลังจากเธอจากไป

เส้นทางชีวิตที่เคยสวยงามของ "คิมแซรน" คิมแซรนเริ่มต้นเส้นทางสายบันเทิงตั้งแต่ยังเป็นเด็ก หลังจากที่คุณแม่พาเธอไป ออดิชั่นโฆษณา ผลิตภัณฑ์เด็ก เนื่องจากหน้าตาน่ารักโดดเด่น ทําให้เธอได้รับงานโฆษณาหลายชิ้น ก่อนจะ แจ้งเกิด อย่างเต็มตัวในปี 2010 จากภาพยนตร์ดัง "The Man from Nowhere" (นักฆ่าฉายาเงียบ) ที่ได้ ประกบคู่กับซุปตาร์อย่าง วอนบิน จากนั้นเธอก็มีผลงานเด่นตามมาอีกมากมาย เช่น The Neighbor, A Girl At My Door, The Great Shaman Ga Doo Shim, The Villagers และอื่นๆ ซึ่งทําให้เธอกลายเป็น นักแสดงเด็กมากฝีมือที่ ได้รับการยอมรับ และถูกวางตัวให้เป็นหนึ่งในนางเอกอนาคตไกลของวงการ

คดีเมาแล้วขับ จุดเปลี่ยนที่ทําให้เธอสูญเสียทุกอย่าง แต่แล้วเส้นทางที่สดใสของเธอก็ต้องพังทลายลงในปี 2022 เมื่อเธอถูกจับในคดีเมาแล้วขับ ซึ่ง ทําให้เธอต้อง ชดใช้ค่าเสียหายกว่า 700 ล้านวอน ให้กับต้นสังกัดเดิมของเธอ จากเหตุการณ์นั้น เธอถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก สูญเสียทั้งงาน ชื่อเสียง และความไว้วางใจจากสังคม

ดราม่าความสัมพันธ์ลับ 6 ปี กับ "คิมซูฮยอน" ถูกแฉ หลังจากเธอจากไป ท่ามกลางข่าวการจากไปของเธอ เรื่องราวกลับยิ่ง ซับซ้อนและร้อนแรงขึ้น เมื่อสื่อเกาหลีอย่าง Garosero Research Institute และ pann.nate.com ได้เปิดเผย ความสัมพันธ์ของเธอกับคิมซูฮ ยอน ซึ่งในขณะนั้นเธออายุเพียง 15 ปี ไม่เพียงแค่นั้น ครอบครัวของคิมแซรนยังออกมาเปิดเผย ภาพถ่ายส่วนตัว และ แชทลับที่คิมแซรน เคยส่งหาคิมซูฮยอน

ในช่วงที่เธอกําลังเผชิญปัญหาหนี้สินจากคดีเมาแล้วขับ โดยขอความช่วย เหลือจากเขา แต่กลับไม่ได้รับการตอบกลับ "พี่คะ ฉันแซรนนะคะ ฉันได้รับหนังสือแจ้งเตือนแล้ว บอกว่าจะฟ้องฉัน บอกว่าจะให้เวลาฉัน ฉันเลย ตั้งใจเตรียมตัวกลับมาทํางาน และจะทยอยใช้คืนให้เป็นเปอร์เซ็นต์ในแต่ละผลงานที่ฉันทํา ไม่ได้ บอกว่าจะไม่คืนนะคะ แต่ถ้าให้จ่าย 700 ล้านวอนทีเดียวตอนนี้ คงทําไม่ได้จริงๆ ไม่ใช่ว่าไม่อยากทํา แต่ทําไม่ได้ ต้องถึงขั้นฟ้องร้องเลยเหรอ ช่วยฉันหน่อย ให้เวลาฉันหน่อยเถอะนะ" แต่กลับไม่มีการตอบกลับจากคิมซูฮยอนหรือต้นสังกัดของเขา