
ทนายเดชา เผยคู่กรณีแสตมป์ จ่อแถลง ลั่นมีพยานหลักฐานชัด
จากกรณีที่ นักร้องชื่อดังอย่าง แสตมป์ อภิวัชร์ ได้ออกมาเปิดเผยถึงสาเหตุที่ต้องหายจากวงการบันเทิง เพราะตนเองและ ภรรยา ถูกคุกคาม จนเป็นคดีในชั้นศาล อีกทั้งพ่อ ของคู่กรณี ซึ่งเป็นนายพล ขอให้ถอนฟ้องและข่มขู่จะยัดคดีทางการเมือง จนมีเรื่องตามมา
ก่อนที่แฟนของคู่กรณีจะออกมาชี้แจงว่า ไม่เป็นความจริง และพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม พร้อมได้โพสต์ชี้แจงอีกรอบว่า ไม่เคยมีคําตัดสินเรื่องคุกคามแต่อย่างใด มีเพียงคดีหมิ่นประมาทกับ คดีอื่นๆ ที่โจทก์ถอนฟ้อง คดีที่ยอมความคือคดีละเมิด ในเนื้อความมีเรื่องเกี่ยวกับชู้สาวที่ศาล เยาวชน และได้ทําสัญญาจ่ายเงินเป็นจํานวนหนึ่งล้านบาทเพื่อให้เรื่องจบนั้น
เมื่อวันที่ 20 มกราคม ทนายเดชา ไลฟ์สดผ่าน เพจ ทนายคลายทุกข์ พูดถึงกรณีที่ แสตมป์ ออกมาโพสต์ล่าสุดตอนหนึ่ง ว่า สิ่งที่แสตมป์ โพสต์ยังมีการใส่ร้ายอยู่ การข่มขู่ว่าจะดําเนินคดีตามกฎหมาย จะดําเนินคดีกับบุคคลที่หมิ่นสถาบัน คือการใช้สิทธิตามปกตินิยม ถ้าแสตมป์ ไม่ได้หมิ่นจะกลัวอะไร
ทั้งนี้ ตามมาตรา 165 ของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ซึ่งบัญญัติไว้ว่า การขู่ว่าจะใช้สิทธิ ตามปกตินิยม ไม่ถือว่าเป็นการข่มขู่ การใดที่กระทําไปเพราะนับถือยําเกรง ไม่ถือว่าการนั้น ได้กระทําเพราะถูกข่มขู่ ดังนั้น ถ้ามีข้อเท็จจริง และพยานหลักฐาน นายพล ทํางานอะไรคุณน่าจะทราบ จะดําเนินคดีกับคุณ มันผิดตรงไหน? ถ้าเขาพูดจริง ก็ไม่ถือว่าเป็นการข่มขู่ ดังนั้น คุณจะกลัวอะไรถ้าไม่ได้หมิ่นสถาบัน
ส่วนที่ระบุว่า ผมถอนฟ้องให้ทั้งหมดเนื่องจากถูกข่มขู่ด้วย ม.112 ซึ่งมีพยานวัตถุเป็นแชต ของผมกับ จ. แสดงว่ามีพยานหลักฐานปรากฎชัด ซึ่งถามว่า คุณจะรอดหรือ? อย่างไรก็ตาม ทั้งนี้คุณมีส่วนร่วมหรือไม่ ที่ทําให้ จ. ถูกฟ้อง จน ต้องจ่าย 1 ล้านบาท คุณมีส่วนร่วมที่ จะรับผิดชอบด้วยหรือไม่? เพราะการที่นอกใจภรรยา และการที่ทําให้ผู้หญิงอีกคนถูกฟ้องเป็นธรรม หรือไม่? มีการขอโทษครอบครัวผู้หญิงหรือไม่? คุณไม่ต้องรับผิดชอบเหรอเพราะคุณไปยุ่งกับเขา และได้แสดงความรับผิดชอบต่อผู้หญิงทั้ง 2 ครอบครัวหรือไม่?
ทั้งนี้ถึงแม้ท่านนายพลไม่เอาเรื่อง แต่ยังมีนักร้องรออยู่ เช่น สนธิญา เป็นต้น เดี๋ยวลูกความผมจะมา จะหารือว่าจะดําเนินการอย่างไรต่อไป ทุกการกระทํามีผลตามมา ขอโทษ แล้วจบหรือไม่ ตนไม่รู้ ดังนั้น หลังจากนี้ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน อย่างไรก็ตาม ทนายเดชา ระบุว่า วันนี้คู่กรณีแสตมป์ จะแถลงข่าวกรณีดังกล่าวด้วย