เปิดสาเหตุ ค้านประกันตัว นานา ไรบีนา
วันที่ 4 ธันวาคม 2568 ที่ศาลอาญา พนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปอศ. ได้นำตัว นางไรบีนา อินทชัย หรือ นานา ไรบีนา อดีตดีเจชื่อดัง ผู้ต้องหาคดี ฉ้อโกงทรัพย์ และ กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน มายื่นคำร้องฝากขังต่อศาลเป็นครั้งแรก
คดีนี้มีจุดเริ่มต้นตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคม 2565 เป็นต้นมา โดยผู้ต้องหาได้ชักชวน นายเอ (นามสมมติ) พร้อมพวก รวม 10 ราย ให้ร่วมลงทุนในธุรกิจปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคลร่วมกับ นางตาว (นามสมมติ) อ้างว่ามีผลตอบแทนสูง 4-7% ต่อเดือน พร้อมนำตัวอย่างผู้กู้ เช่น คุณบี ที่กู้เงิน 5 ล้านบาท มาแสดงแผนการจ่ายผลตอบแทนเป็นรายเดือน เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ
ผู้ต้องหาเสนอแผนการลงทุนหลายครั้ง พร้อมให้ดูเอกสารประกอบ ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อและโอนเงินเข้าบัญชีของผู้ต้องหาซึ่งเปิดไว้ 4 บัญชี ในช่วงแรกผู้เสียหายได้รับผลตอบแทนจริงตามที่ผู้ต้องหาอ้าง จึงลงทุนเพิ่มอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2568 ผู้ต้องหาหยุดจ่ายผลตอบแทนและเงินต้น โดยอ้างว่าบัญชีถูกหน่วยงานรัฐอายัด ผู้เสียหายจึงทวงถาม แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน เพียงบอกว่าจะคืนเงินทั้งหมดในเดือนตุลาคม 2568 พร้อมทั้งออกเช็คให้ผู้เสียหาย ซึ่งหลายฉบับธนาคารปฏิเสธการจ่ายเนื่องจากเงินไม่พอ
ต่อมาในเดือนกันยายน 2568 ผู้ต้องหาได้ออกมาชี้แจงว่า ไม่ได้มีการนำเงินไปลงทุนจริง แม้บุคคลที่อ้างถึงจะมีตัวตน แต่ไม่ได้ใช้เงินผู้เสียหายในการทำธุรกิจ และยังยอมรับว่าได้นำเงินไปใช้ส่วนตัว ผู้เสียหายจึงมั่นใจว่าถูกหลอกลวง จึงเข้าแจ้งความ รวมความเสียหาย กว่า 152,907,577 บาท
การสอบสวนยังพบว่า ผู้ต้องหามีพฤติการณ์หลอกผู้เสียหายรายอื่น ๆ โดย
-อ้างลงทุนธุรกิจกีฬา (บาสเกตบอล) ให้ผลตอบแทนถึง 40% ทั้งที่ไม่มีธุรกิจจริง
-หลอกขายหุ้นบริษัท เนเวอร์เซคัทซ์ จำกัด ทั้งที่ไม่ใช่หุ้นของตน
-อ้างนำเงินไปลงทุนต่างประเทศ เช่น ธุรกิจร้านอาหารที่สหรัฐอเมริกา
-มีการปลอมแปลงเอกสารการโอนเงินเพื่อให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ
จากพยานหลักฐานทั้งหมด เจ้าหน้าที่จึงขออำนาจศาลออกหมายจับ
วันที่ 3 ธันวาคม 2568 ตำรวจได้จับกุมนานา ที่บ้านพักย่านคลองตันเหนือ และแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ได้แก่
-ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์
-ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน
-ปลอมและใช้เอกสารปลอมในลักษณะที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้อื่นหรือประชาชน
เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 264, 268, 341 และ พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 รวมทั้งกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
พนักงานสอบสวนยังสอบสวนไม่เสร็จ ต้องสอบพยานอีก 10 ปาก รอผลตรวจพิสูจน์ของกลางและประวัติผู้ต้องหา จึงยื่นคำร้องขอฝากขังเป็นเวลา 12 วัน (4-15 ธ.ค. 68) พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจาก
มูลค่าความเสียหายสูง
ผู้ต้องหาเป็นบุคคลมีชื่อเสียง คดีอยู่ในความสนใจของสังคม
มีผู้เสียหายรายใหม่ร้องทุกข์ต่อเนื่อง
มีผู้เสียหายยื่นคัดค้านเพราะเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี
ศาลพิจารณาแล้ว อนุญาตให้ฝากขังตามคำร้อง ของพนักงานสอบสวน






