จากสื่อต่างประเทศ ได้รานงานว่า ฝ่ายของนักแสดงคิมซูฮยอนได้ออกแถลงการณ์เพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อพิพาทที่ยังคงดำเนินอยู่เกี่ยวกับระยะเวลาความสัมพันธ์ที่ถูกกล่าวหาของเขากับนักแสดงคิมแซรนผู้ล่วงลับ

เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา KST ทนายความโกซังรก ตัวแทนของคิมซูฮยอน ได้แถลงในช่อง YouTube ของเขา Jingyeok-ui Gobeon (Korean Legal Titan) ว่า “ได้รับการยืนยันแล้วว่าทนายความบูจีซอกได้ตอบรับคำขอสัมภาษณ์จากรายการสืบสวนของสถานีโทรทัศน์ภาคพื้นดินรายใหญ่ ซึ่งเริ่มออกอากาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว”

ทนายความโกกล่าวถึงข้อกล่าวหาที่ว่า “ครอบครัวผู้สูญเสียได้มอบเอกสารใหม่ให้กับตัวแทนทางกฎหมายของพวกเขา ซึ่งไม่เคยเปิดเผยมาก่อน” ว่า “หากเอกสารที่ไม่พบในบันทึกใดๆ ที่ส่งให้ตำรวจหรือศาลในช่วงแปดเดือนที่ผ่านมาปรากฏขึ้นมาในตอนนี้ นั่นหมายความว่ามีความเป็นไปได้สูงที่เอกสารดังกล่าวจะถูกกุขึ้น” เขากล่าวต่อว่า “หากมีการเผยแพร่เอกสารปลอมหรือข้อมูลส่วนตัวเพิ่มเติม การกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายการจับกุมได้ทันที”

ทนายโกได้โต้แย้งข้อกล่าวอ้างของฝ่ายตรงข้ามทีละข้อ โดยกล่าวว่า "ไม่มีรูปถ่ายเป็นพันๆ รูป" และอ้างถึงรูปถ่ายที่ถูกกล่าวหาว่าถ่ายเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2020 ซึ่งเป็นรูปคิมซูฮยอนและผู้เสียชีวิตที่มีใบหน้าใกล้กัน โดยกล่าวว่า "เขากล่าวว่า 'รูปถ่ายนั้นถูกเปิดเผยต่อสาธารณะก่อนที่ผมจะได้รับการแต่งตั้งเป็นตัวแทนของครอบครัว ดังนั้นผมจึงไม่มีอะไรจะพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้' ผมไม่แน่ใจว่านั่นหมายความว่าอย่างไรแน่ชัด แต่มันบ่งชี้อย่างชัดเจนว่าเขายอมรับว่ารูปถ่ายนั้นถ่ายเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2020"

โกชี้แจงเพิ่มเติมว่า "ชื่อผู้ส่งในข้อความ KakaoTalk เดือนมิถุนายน 2016 ('เมื่อไหร่ผมจะหลับในอ้อมแขนคุณได้?') ถูกระบุว่า 'ไม่ทราบ' การอ้างว่าคิมซูฮยอนเป็นผู้ส่งนั้นขึ้นอยู่กับคำพูดของพี่น้องของผู้เสียชีวิตเพียงเท่านั้น และเหตุผลเบื้องหลังนั้นไร้สาระมากจนน่าขัน" เขายังย้ำว่า “คิมซูฮยอนไม่เคยส่งอีเมลส่วนตัวถึงผู้เสียชีวิตระหว่างรับราชการทหาร ดังนั้น ข้อกล่าวอ้างที่ว่าป้าของผู้เสียชีวิตได้เข้าถึงอีเมลของผู้เสียชีวิตและยืนยันว่าเป็น ‘ข้อความส่วนตัวจากสมัยเป็นทหาร’ จึงไม่มีมูลความจริง”

ก่อนหน้านี้ ครอบครัวของคิมแซรนผู้ล่วงลับกล่าวหาว่าเธอมีความสัมพันธ์กับคิมซูฮยอนตั้งแต่ยังเป็นผู้เยาว์ ซึ่งก่อให้เกิดข้อถกเถียงเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวของนักแสดง ฝ่ายของคิมซูฮยอนโต้แย้งว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาเริ่มต้นหลังจากที่เธอบรรลุนิติภาวะแล้ว และได้ยื่นฟ้องอาญาและฟ้องร้องทางแพ่งเพื่อเรียกร้องค่าเสียหาย 12 พันล้านวอน (8.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ต่อสถาบันวิจัยกาโรเซโร (Hoverlab) และครอบครัวผู้สูญเสีย