วันที่ 14 พ.ย. 2568 บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ และตอนบนของภาคตะวันออกยังคงมีอากาศเย็นในช่วงเช้า โดยอุณหภูมิจะลดลงอีก 1-2 องศาเซลเซียส เนื่องจากมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมพื้นที่ดังกล่าว ขณะที่ภาคกลางด้านตะวันออกและภาคตะวันออกตอนบนจะมีอุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

ในส่วนของภาคกลาง ภาคตะวันออก กรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมถึงบางพื้นที่ของภาคเหนือ ปริมาณฝนมีแนวโน้มลดลง แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ โดยเฉพาะทางด้านตะวันตกของภาคกลางที่อาจมีฝนตกหนักบางแห่ง อันเป็นผลจากลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดพาความชื้นเข้าปกคลุมพื้นที่ ขอให้ประชาชนในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่แปรปรวน

สำหรับภาคใต้ตอนบนยังคงมีฝนฟ้าคะนองและอาจมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามันห่างฝั่งมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร และในพื้นที่ที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นอาจสูงมากกว่า 2 เมตร จึงขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีพายุฝนฟ้าคะนอง

ภาคเหนือ

อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิลดลง 1-2 องศาเซลเซียส

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ โดยมากในจังหวัดลำปาง สุโขทัย ตาก กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์

อุณหภูมิต่ำสุด 19-24 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส

บริเวณยอดดอยอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-16 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออก ความเร็ว 10-15 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิลดลง 1-2 องศาเซลเซียส และมีลมแรง

มีฝนร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากในจังหวัดเลย ชัยภูมิ และนครราชสีมา

อุณหภูมิต่ำสุด 17-22 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 27-31 องศาเซลเซียส

ยอดภูอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-16 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-35 กม./ชม.

ภาคกลาง

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง

บริเวณจังหวัดอุทัยธานี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม

อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคตะวันออก

ตอนบนของภาคมีอากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่

ส่วนมากในจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร และในบริเวณฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง

บริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร

อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่

ส่วนมากในจังหวัดพังงา ภูเก็ต กระบี่ และตรัง

อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่

อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม.