วันที่ 11 พ.ย. 2568 ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง เนื่องจากมีลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคกลางตอนล่าง ขณะที่บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังอ่อนปกคลุมภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ส่งผลให้บางพื้นที่มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลสุขภาพ เนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงในช่วงนี้

ทั้งนี้ มวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมตอนใต้ของประเทศจีนแล้ว และคาดว่าจะขยายตัวลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนและทะเลจีนใต้ในวันพรุ่งนี้ (13 พฤศจิกายน 2568) ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิลดลง 1-2 องศาเซลเซียส พร้อมมีลมแรงเกิดขึ้นก่อน ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคเหนือ ภาคกลาง รวมถึงกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก จะมีแนวโน้มอุณหภูมิลดลงในระยะต่อไป

สำหรับภาคใต้ ยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ เนื่องจากมีลมตะวันตกและลมตะวันตกเฉียงเหนือพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย บริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง คลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขณะที่อ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

อนึ่ง พายุโซนร้อนกำลังแรง ฟงวอง (FUNG-WONG) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีแนวโน้มจะเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสู่บริเวณใกล้เกาะไต้หวันในช่วงวันที่ 12-13 พฤศจิกายน 2568 โดยพายุนี้ไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อประเทศไทย อย่างไรก็ตาม ขอให้ผู้ที่เดินทางไปยังบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทาง

ภาคเหนือ

อากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเชียงราย ลำพูน ลำปาง แพร่ ตาก และกำแพงเพชร

อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส

บริเวณยอดดอยอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-17 องศาเซลเซียส

ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

อากาศเย็นในตอนเช้า โดยอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส กับมีลมแรงทางตอนบนของภาค มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวั

เลย อุดรธานี ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

อุณหภูมิต่ำสุด 20-24 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส

บริเวณยอดภูอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-16 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ภาคกลาง

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี และราชบุรี

อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออก ความเร็ว 10-15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ภาคตะวันออก

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส

อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส

ลมตะวันตก ความเร็ว 15-30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล

อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส

ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 ของพื้นที่

อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง