ฟิล์ม ปล่อยโฮแม่ต้องนั่งรถเมล์ไปทำงาน โดนดูถูก

ฟิล์ม ปล่อยโฮแม่ต้องนั่งรถเมล์ไปทำงาน โดนดูถูก

เป็นอีกหนึ่งนักแสดงหนุ่มในวงการที่ต้องเจอสารพัดข่าวฉาวเข้ามาในชีวิตตลอดการทำงานจนได้รับฉายาแมว 9 ชีวิต ในวงการบันเทิง สำหรับหนุ่ม ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ ที่สุดท้ายก็ได้กลับมายืนหยัดทำงานที่ตัวเองรักอีกครั้ง

ล่าสุด หนุ่ม ฟิล์ม ออกมาเล่าเรื่องเศร้าที่ไม่เคยเล่าที่ไหนมาก่อนเกี่ยวกับครอยบครัวว่า โดนมรสุมลูกใหญ่เข้ามาในชีวิต จนต้องตัดสินใจไปใช้ชีวิตที่ประเทศอังกฤษ ฟิล์ม รัฐภูมิ เผยช่วงชีวิตหลังจากที่ผมบวชเรียบร้อย ผมก็ตัดสินใจไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษ เพราะว่ามีพี่สาวของผมอยู่ที่นั่น ผมต้องพาคุณแม่ผมไปด้วย เพราะผมต้องอยู่ติดกันตลอดเวลา พอผมพาคุณแม่ไปด้วย ค่าใช้จ่ายมันก็เลยเพิ่มขึ้นไปด้วย ทั้งค่าใช้จ่าย ค่ากิน ที่พัก

ภาพแม่คือภาพที่ผมแบบสะเทือ น ใ จที่สุดในชีวิตเลย เพราะตัวผมเองผมเจออะไรผมรับได้ แต่ที่ผมเห็นแม่ อันนั้นคือจุดเปลี่ยนในชีวิตผมด้วยว่าผมรับไม่ได้ เพราะว่าผมห้ามพ่อแม่หรือครอบครัวของผมไม่ให้ทำงานตั้งแต่ที่ผมอายุ 17 ปี

ผมบอกว่าผมจะเลี้ยงเอง แล้วผมทำแบบนั้นมาได้ตลอดเลย ผมเลี้ยงทุกคน เลี้ยงคุณย่าผมจนท่านลาไปเลย

แต่ภาพที่ผมเห็นวันนั้นที่ผมอยู่อังกฤษ แล้วคุณแม่ผมเขาเบื่อแล้ว เขามีความรู้เรื่องสักคิ้ว เรื่องย้อมผม เสริมสวย เขาเลยออกไปทำงานตามร้านตัดผมไทย นั่นแหละครับ ที่เป็นภาพที่ผมเห็นแล้วแบบทำไมมันต้องมาเป็นแบบนี้ คือแม่ต้องมานั่งรถเมล์ ซึ่งเวลาที่เขากลับมาแล้วเขาเล่าให้เราฟัง คือเขาหัวเราะ ได้เพื่อน

แต่ลึกๆ ผมเจ็ บ ปว ด ผมไม่ชอบ ผมไม่อยากให้เป็นแบบนั้น เขาก็พยายามบอกแต่ในมุมดีๆ ให้ผมฟัง แล้วบางครั้งผมบอกว่าผมไปเรียนแล้วนะ แต่ผมแอบดูแม่

เรื่องนี้ผมไม่ได้เล่าที่ไหนเลย คือผมแอบดูแล้วผมน้ำตาร่วง แล้วแม่ก็เดินออกไป ภาษาอังกฤษแม่คือไม่ได้เลย แต่เขาแบบไปสู้ชีวิตออกไปนั่งรถเมล์ พอผมเห็นแม่ผมเกาะรถเมล์ ตั้งแต่ผมอายุ 17 ปี เราไม่เคยทำให้เขาเป็นแบบนี้เลยนะ แต่ความผิดพลาดของเราทำให้เขาเป็นแบบนี้เลย

ซึ่งเขาก็บอกเราว่าเขามีความสุข แต่ผมคิดว่าเขาไม่มีความสุข ใครมันจะไปรับได้ ไม่ใช่การติดดิน ไม่ใช่ใครรับไม่ได้ แต่ใครจะไปรับได้ ตอนที่แบบเพราะสิ่งที่เขาจะไปเจอผมรู้ว่าเขาต้องไปเจออะไร แม่ฟิล์มเหรอ ทำไมมาตัดผม ทำไมมาทำอย่างนี้ ผมเข้าใจว่าแม่แกร่งมาก เพราะผมก็ได้ทุกอย่างมาจากแม่ เพราะว่าแม่เป็นแบบอย่าง

เรียบเรียง news.in.th

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ