พ่อแม่ งง ลูกสาวเสียชีวิตไปแล้ว ที่ทำงานเก่ายังบุกมา บอกว่าลูกโกงเงิน 1.6 ล้าน บังคับขายที่ดินใช้หนี้แทน

พ่อแม่ งง ลูกสาวเสียชีวิตไปแล้ว ที่ทำงานเก่ายังบุกมา บอกว่าลูกโกงเงิน 1.6 ล้าน บังคับขายที่ดินใช้หนี้แทน

วันที่ 24 พฤศจิากยน 2565 ที่ผ่านมา เพจเฟซบุ๊กชื่อ โหนกระแส รายงานว่า พ่อ-แม่สุดงง ลูกสาวเสียชีวิต ที่ทำงานอ้างลูกสาวยักยอกเงิน 5 ปีเป็นเงิน 1.6 ล้านบาท พร้อมตามทวงให้ใช้หนี้แทน โดยจะให้เซ็นยินยอมขายที่ดินเอาเงินมาให้

ภาพจาก เพจเฟซบุ๊ก เฮียเปี๊ยกช่วยด้วย

ภาพจาก เพจเฟซบุ๊ก เฮียเปี๊ยกช่วยด้วย

โดย นายภานุมาศ จิตรวศินกุล หรือเฮียเปี๊ยก เจ้าของเพจ เฮียเปี๊ยกช่วยด้วย ลงพื้นที่จังหวัดยโสธรเพื่อให้ความช่วยเหลือสามีภรรยา หลังได้รับเรื่องร้องเรียนว่า หลังลูกสาวของผู้ร้องเรียนผูกคอเสียชีวิตเมื่อ 17 ตุลาคม สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ของผู้ฝากเงิน ธ.ก.ส.จังหวัดยโสธร ซึ่งลูกสาวทำงานอยู่ กล่าวหาว่าผู้เสียชีวิตยักยอกเงินสมาคมเป็นจำนวน 1.6 ล้านบาท ตั้งแต่ปี 2560-2565 โดยไม่มีหลักฐานนำแสดงต่อพ่อแม่ผู้เสียชีวิต

แต่มีเจ้าหน้าที่สมาคมฯนำหนังสือบันทึกข้อตกลงการชดใช้ค่าเสียหายโดยการเช็นว่าจะขายที่ดินจำนวน 1 ไร่เป็นเงินจำนวน 3.5 แสนบาทเพื่อนำเงินมาชดใช้หนี้แทนผู้ตาย ซึ่งตนมองว่าสัญญาฉบับดังกล่าวขัดต่อหลักกฎหมาย พร้อมนำตัวสามีภรรยาคู่นี้ไปร้องศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดยโสธร เพื่อให้ตรวจสอบว่าผู้ตายถูกกล่าวหาว่ายักยอกทรัพย์จริงหรือไม่ ซึ่งการแจ้งว่าผู้ตายยักยักทรัพย์มา ตั้งแต่ปี 2560 -2565 จึงเกิดคำถามว่าตลอด 5 ปีทางคณะกรรมการสมาคมฯ ถึงปล่อยให้มีการยักยอกทรัพย์ได้อย่างไร บุคคลใดมีอำนาจเช็นเบิกจ่ายเงิน ซึ่งผู้ตายเป็นเจ้าหน้าที่ธุรการของสมาคมฯ ไม่มีอำนาจในการเช็นเบิกจ่ายเงินแน่นอน

ภาพจาก เพจเฟซบุ๊ก เฮียเปี๊ยกช่วยด้วย

แต่หากทางสมาคมอ้างว่ามอบอำนาจให้ผู้เสียชีวิตเป็นคนไปเบิกเงิน ดังนั้นผู้มีอำนาจของสมาคมฯ จะต้องลงลายมือชื่อในการถอนเงินแต่ละครั้ง จะไม่สอบถามทักท้วงผู้ตายที่มาถือใบเบิกถอนเลยหรือไม่

ภาพจาก เพจเฟซบุ๊ก เฮียเปี๊ยกช่วยด้วย

ต่อมา สามีภรรยาคู่นี้เข้ายื่นเอกสารร้องเรียนต่อ นายขันชัย สีนอร์ ผอ.ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดยโสธร โดยทางศูนย์ดำรงธรรมได้ให้เจ้าหน้าที่บันทึกถ้อยคำเอาไว้ และกำชับด้วยว่า หากใครนำเอกสารใดๆมาให้เซ็น ห้ามเซ็นเด็ดขาด

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ของผู้ฝากเงิน ธ.ก.ส.จังหวัดยโสธร แต่ไม่พบเจ้าหน้าที่ของสมาคม และจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ธนาคารทราบเพียงว่าเจ้าหน้าที่ทั้งหมดของสมาคมได้ออกไปข้างนอกก่อนที่ผู้สื่อข่าวจะไปถึง

โพสต์ดังกล่าว

ต่อมาทางด้านเพจเฟซบุ๊ก เฮียเปี๊ยกช่วยด้วย ได้โพสต์ถึงข้อสังเกตุว่า 1.ผู้เสียชีวิตเป็นแค่เจ้าหน้าที่ธุรการไม่มีอำนาจในการเซ็นถอนเงินสมาคม

2.ใครที่มีอำนาจเซ็นถอนเงินบ้างและแต่ละครั้งในการถอนต้องเซ็นกี่คน

3.ถ้าผู้ตายได้รับมอบอำนาจในการไปถอนเงินเมื่อถอนแล้วทางผู้เซ็นใบถอนจะไม่ทวงถามหาเงินที่ให้ไปถอนหรือ

4.สมาคมบอกว่าผู้ตายกระทำการยักยอกมาตั้งแต่ปี2560 นี่มัน2565แล้วนะทำไมคณะกรรมการถึงไม่มีการจรวจสอบปล่อยให้มีการกระทำทุจริตมาได้ไงตั้ง5ปี

5.ตอนผู้ตายยังไม่ตายทำไมไม่ไปแจ้งความแต่พอตายแล้วถึงจะมาบอกพ่อ-แม่เค้า

6.สมาคมมีการประชุมกันกี่ครั้งต่อปีและในการประชุมไม่มีการเช็คยอด เงินคงเหลือในบัญชี จำนวนสมาชิกที่ยังส่งเงิน จำนวนผู้ใช้สิทธิรับเงินชาปณกิจว่าเบิกจ่ายไปกี่คนและเงินในบัญชีสมาคมคงเหลือเท่าไหร่เลยหรือ

7.การทึ่เจ้าหน้าที่สมาคมและธ.ก.ส.มาเสนอให้พ่อ-แม่เซ็นสัญญายินยอมขายที่มาใช้หนี้แทนลูกสัญญานั้นมันขัดต่อหลักกฏหมาย ขัดต่อหลักจริยธรรมและศีลธรรมซึ่งกระทำไม่ได้ทางเจ้าหน้าที่ไม่รู้เลยหรอถ้าตอบว่าไม่รู้ก็ลาออกไปขายหมูปิ้งดีกว่าหรือถ้าบอกว่ารู้..อ้าวรู้แล้วทำไมยังทำ

อย่างไรก็ดีทาง ผ.อ.ศูนย์ดำรงธรรมท่านได้ให้ความเมตาและจะส่งเรื่องนี้ถึงท่านผู้ว่าฯยโสธร และจะให้ความเป็นธรรมกับพ่อ-แม่ผู้ตายและจะหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินการตามกฏหมายให้ได้

ขอบคุณข้อมูลจาก เพจเฟซบุ๊ก โหนกระแส และ ภาพจาก เฮียเปี๊ยกช่วยด้วย

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ