หมวดไวกิ้ง เปิดใจ

หมวดไวกิ้ง เปิดใจ

ร.ต.ท.หญิง ภัทรศยา ฤกษ์รัตน์ หรือ หมวดไวกิ้ง นักเรียนนายร้อยรุ่น 72 ทำหน้าที่นายตำรวจติดตาม พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (โฆษกตร.) เปิดใจกับสื่อมวลชนหลังโด่งดังเป็นชั่วข้ามคืน ด้วยใบหน้าที่คมสวยคมทะลุแมส

ทำเอาหลายๆ คนโฟกัสที่ตำรวจหญิงคนดังกล่าวขณะที่ฟังการแถลงข่าวคดี ผู้กำกับโจ้ ที่กองบังคับการปราบปรามเมื่อคืนที่ผ่านมา

ร.ต.ท.หญิง ภัทรศยา หรือ หมวดไวกิ้ง เล่านาที ที่ได้เข้าไปถือโทรศัพท์ให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ว่า ตอนแรกก็ไม่ทราบว่าต้องไปถือโทรศัพท์ใกล้กับ ผบ.ตร.ขนาดนั้น เพราะทำหน้าที่เป็นนายตำรวจติดตาม โฆษก ตร.ปกติตอนแถลงข่าวแต่ว่าเมื่อคืนเกิดเหตุขัดข้องคือเสียงไมค์ไม่ดี

ก่อนผู้บังคับบัญชาจะให้ไปช่วยแก้ไขปัญหาตนเองจึงขออนุญาต ผบ.ตร.ใช้ไมค์เอามาจ่อโฟนอินกับโทรศัพท์ ไม่รู้มาก่อนว่าจะมีคนสนใจและถือเป็นซีนแจ้งเกิด แต่ได้รับคำสั่งอะไรจากผู้บังคับบัญชาก็จะปฏิบัติตาม และแก้ไขปัญหาให้ราบรื่นไปให้ได้

หมวดไวกิ้ง กล่าวต่อว่า ณ ตอนนั้นตนเองไม่ได้แสดงความสามารถอะไร แค่ไปช่วยแก้ไขปัญหา อยากจะให้โฟกัสที่การทำงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติมากกว่า

ส่วนที่มีคนดราม่าเล็กน้อยว่าเอาไปเป็นขาตั้งกล้องโทรศัพท์นั้น ส่วนตัวไม่ได้มองจุดนั้น แต่มองว่าสถานการณ์ผ่านมาได้อย่างราบรื่นก็คือจบแล้ว

และอีกอย่างหนึ่ง ถ้าไม่ได้ทำวิธีนั้นด้วยสถานการณ์ที่กระชั้นชิดเราไม่สามารถแก้ไขปัญหาอย่างอื่นให้ดูดีหรือไฮเทคมากกว่านี้แล้ว

ถือเป็นครั้งแรกที่ได้ใกล้ชิด ผบ.ตร.ที่สุดแล้ว ก็รู้สึกสงสารท่าน ผบ.ตร.มากเหมือนกัน เพราะตัวเหม็นมาก ทำงานมาทั้งวัน หมวดไวกิ้งกล่าว

หมวดไวกิ้ง ยังเปิดเผยถึงไลฟ์สไตล์ส่วนตัวว่า จะเน้นทำงานและก็เรียนอย่างเดียว งานส่วนมากก็ตาม โฆษก ตร.รายงานภารกิจ ประสานงานกับสื่อมวลชน เน้นเรียนอ่านหนังสือ แต่มีเวลาว่างไม่ได้ทำงานก็จะชอบร้องเพลง

ทั้งนี้ ส่วนตัวไม่มีญาติพี่น้องเป็นข้าราชการตำรวจ และเป็นลูกสาวคนเดียว ที่เลือกมารับราชการตำรวจ เพราะตอนเด็กๆได้คลุกคลีและใกลิชิดกับตำรวจเยอะ และได้รับรู้มาตลอดว่าตำรวจไม่ได้มีภาพลักษณ์ที่ดีมาแต่แรก จึงใฝ่ฝันว่าถ้าได้เป็นตำรวจจะทำให้ดี

อยากเป็นส่วนเล็กๆที่จะได้เปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์อะไรบ้าง ส่วนแว็บแรกที่คิดอยากจะเป็นตำรวจนั้น เกิดขึ้นก่อนที่จะเรียนมัธยมแล้ว รู้สึกว่าแม้เป็นอาชีพที่คนด่าเยอะ แต่เป็นเด็กที่ชอบ เพราะชอบอะไรที่ท้าทายเป็นตัวของตัวเอง

ส่วนเป้าหมายในอาชีพตำรวจหลังจากนี้เห็นว่า อนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอน แต่จะทำปัจจุปันให้ดีที่สุด ไม่ว่าจะได้รับคำสั่งอะไรมาก็จะทำหน้าที่ตัวเองให้ดีที่สุดทั้งเรื่องงานและเรื่องเรียน พร้อมเผยว่า

ตนเองเป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง ที่เป็นตำรวจและรู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นตำรวจ ดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในทีมโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นการทำหน้าที่ที่เกี่ยวกับภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติโดยตรงก็จะทำหน้าที่นี้ให้ดีที่สุด

ปัจจุปันแม้ หมวดไวกิ้ง จะมีคนรู้ใจแล้ว แต่ก็จะได้เผย สเปคผู้ชายในฝันว่า ขอแค่เป็นคนที่เข้าใจในงานของตัวเองก็พอแล้ว

ในช่วงท้ายยังได้แสดงความสามารถด้วยการร้องเพลงสากลและเพลงลูกทุ่ง (ไม่ใช่แฟนทำแทนไม่ได้)และพูดภาษาจีนด้วย

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ