อุ้ม สิริยากร กับลูกสาว 2 คน ปลูกผัก ทำสวน ที่อเมริกา

อุ้ม สิริยากร กับลูกสาว 2 คน ปลูกผัก ทำสวน ที่อเมริกา

ยังจำอดีตนักแสดงคนเก่งคนนี้ได้กันอยู่ไหมคะ อุ้ม สิริยากร พุกกะเวส ที่เริ่มเป็นที่รู้จักจากละครโทรทัศน์ เช่น สามใบไม่เถา สี่แผ่นดิน และต่อมาอุ้มก็มีผลงานเกี่ยวกับหนังสือมากมาย

หลังจากนั้น เมื่อ 31 ธันวาคม 2554 อุ้มได้เข้าสู่ประตูวิวาห์กับ นายคริสโตเฟอร์ มาร์ควอร์ท ครูชาวอเมริกัน ที่พิพิธภัณฑ์บ้านจิม ทอมป์สัน

ปัจจุบันมีลูกสาว 2 คน คือ น้องเมตตา ด.ญ.เมตตา มาร์ควอร์ท และ น้องอนีคา ด.ญ.อนีคา โรส มาร์ควอร์ท ซึ่งสาวอุ้มก็ได้ย้ายไปใช้ชีวิตครอบที่เมืองพอร์ตแลนด์ รัฐออริกอน สหรัฐอเมริกา เป็นเวลาราว ๆ ประมาณ 10 ปี

ล่าสุด สาวอุ้ม สิริยากร ได้มาอัพเดทชีวิตผ่านเว็บไซต์ The Cloud ถึงชีวิตปัจจุบัน ว่าชีวิตของอุ้มอาจจะไม่ได้เป็นไปด้วยความเรียบง่ายอย่างที่หวังไว้ เพราะน้องอนีคา ลูกสาวคนเล็ก มีปัญหาด้านสุขภาพตั้งแต่เกิด และจะต้องรักษาไปตลอดชีวิต

อุ้ยเผยว่าช่วงก่อนที่ตั้งจะครรภ์ ตนได้วางแผนสิ่งต่าง ๆ ไว้เยอะมาก ๆ แต่พอมีลูกแล้วทุกสิ่งล้วนคาดเดาไม่ได้

เมื่อตอนที่มีอนีคาชีวิตเริ่มเปลี่ยนไป ทั้งที่ตอนแรกคิดว่าทุกอย่างจะเป็นปกติ หรือเหมือนกับที่เคยเป็น เพราะเมตตาออกมาปกติทุกอย่าง

ตัวแข็งแรง เจอหมอปีละครั้งตามปกติ แต่พอเป็นอนีคาตอนคลอดมาก็อุ้มดูว่าลูกเป็นเพ ศอะไรก่อน แต่พอได้มองหน้าแล้วก็เห็นว่าใบหน้าของลูกมีสีม่วง

มีแค่รอบตาซ้ายเท่านั้นที่ผิวปกติ เดาว่ารอยช้ำ เดี๋ยวก็คงหายแล้วแต่พอหมอมาถึงรู้ว่าเป็นข้อบ่งชี้หนึ่งของ Sturge-Weber Syndrome เป็นความผิดปกติของยีน มีโอกาสเกิดหนึ่งในห้าหมื่น และจะเป็นไปตลอดชีวิต

ตนตั้งใจจะปลูกฝังให้ลูกเป็นคนเข้มแข็ง เห็นอกเห็นใจผู้อื่น รับผิดชอบต่อสังคม มีสติปัญญา มีความคิดสร้างสรรค์ รู้จักตัวเอง รู้ว่าตัวเองมีความสามารถอะไร แล้วก็แบ่งปันสิ่งนั้นกับโลก

เขาเกิดมาควรจะทำให้โลกนี้ดีขึ้น ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง แล้วก็เป็นหน้าที่ของเราสองคนพ่อแม่ที่ต้องทำให้โลกนี้ดีขึ้นด้วยการเลี้ยงเด็กสองคนนี้ให้เป็นคนที่มีคุณภาพต่อโลก ไม่เบียดเบียน ไม่เอาเปรียบผู้อื่น แต่ขณะเดียวกันก็ต้องรู้จักลุกขึ้นสู้เพื่อปกป้องตัวเองด้วย

ตนเลิกเล่นเฟซบุ๊กเพราะคิดว่า เราต้องเคารพความเป็นมนุษย์ของเขา เพราะเวลาพิมพ์คำว่าน้องเมตตาไปเมื่อช่วงสองปีก่อน ก็เจอรูปลูกเต็มไปหมด แต่ตนไม่เคยขอลูกเลยว่าโพสต์ได้ไหม เลยคิดว่าเลิกเล่นดีกว่า

เรียบเรียงโดย ทีมงาน news.in.th

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ