สุเชาว์ พงษ์วิไล ชอบใช้ชีวิตคนเดียว ไม่ซื้อบ้านหลังใหญ่ อยู่ห้องเช่ารายเดือนมานาน 30 ปี

สุเชาว์ พงษ์วิไล ชอบใช้ชีวิตคนเดียว ไม่ซื้อบ้านหลังใหญ่ อยู่ห้องเช่ารายเดือนมานาน 30 ปี

เป็นอีกหนึ่งนักแสดงมากฝีมือที่อยู่ในวงการบันเทิงมาเป็นระยะเวลานนานสำหรับ สุเชาว์ พงษ์วิไล เริ่มอาชีพนักแสดงด้วยการเป็นนักแสดงละครเวทีต่อมาละครเวทีเรื่องนี้ได้มีโอกาสแพร่ภาพออกโทรทัศน์ จึงมีผู้เห็นแววและชักชวนเข้าสู่การแสดงภาพยนตร์ โดยภาพยนตร์เรื่องแรกที่แสดงคือ กิเลสคน

ล่าสุดต้องบอกเลยว่าทางด้าน สุเชาว์ พงษ์วิไล นั้นได้ใช้ชีวิตปัจจุบันอยู่เพียงลำพัง ซึ่งก็ใช้ชีวิตแบบคนโสด อยากไปไหนก็ไป อยู่ห้องเช่าที่เราอยู่เราอยู่มาตั้งแต่อายุ 30 กว่าๆ รู้สึกว่ามันสะดวกสบาย อยู่ในเมือง จะไปไหนมาไหนก็ง่ายไม่ต้องหวือหวา

ส่วนที่ชอบไปไหนมาไหนกับจักรยานเพราะส่วนตัวเราชอบปั่นจักรยานมานานแล้ว แล้วรู้สึกว่าเวลาเราขับไปเรื่อยๆเพลินๆมันทำให้เรารู้สึกเหมือนเปิดประสบการณ์ใหม่ได้ท่องเที่ยวสูดอากาศแบบเต็มที่

สุเชาว์ นั้น เกิดที่จังหวัดลพบุรี สำเร็จการศึกษาจากวิทยาลัยวิชาการก่อสร้าง คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ในปัจจุบัน

เริ่มอาชีพนักแสดงด้วยการเป็นนักแสดงละครเวทีของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เมื่ออายุได้ 30 กว่าปีแล้ว โดยการรับบทเป็นพระเอก

ต่อมาละครเวทีเรื่องนี้ได้มีโอกาสแพร่ภาพออกโทรทัศน์ทางช่อง 5 จึงมีผู้เห็นแววและชักชวนเข้าสู่การแสดงภาพยนตร์ โดยภาพยนตร์เรื่องแรกที่แสดงคือ กิเลสคน ในปี พ.ศ. 2520 ต่อมาก็คือ สวัสดีคุณครู พ.ศ. 2521 และเทพธิดาบาร์ พ.ศ 2521 เป็นเรื่องที่สาม

สุเชาว์ พงษ์วิไล มีบทบาทที่เป็นที่รู้จักกันดีในบทของดาวร้ายในละครโทรทัศน์และภาพยนตร์หลายต่อหลายเรื่อง ระยะหลังมีการเปลี่ยนมารับบทพ่อหรือตัวละครอาวุโสขึ้นมาบ้าง

ผลงานในระยะหลัง ได้แก่ สุริโยไท (พ.ศ. 2544), ผีสามบาท (พ.ศ. 2544)

องค์บาก (พ.ศ. 2546), A Moment in June ณ ขณะรัก (พ.ศ. 2552) และ 2022 สึนามิ วันโลกสั งหา ร ในปีเดียวกัน เป็นต้น

นอกจากนี้แล้ว ยังร่วมแสดงในมิวสิกวิดีโอของธนพล อินทฤทธิ์ ในเพลง 18 ฝน

ด้วยการรับบทเป็นพ่อของ สิทธิพร นิยม ในปี พ.ศ. 2537

และในเพลง รอ ยกรี ดที่ข้อมือ ของภานุพงศ์ จำปาเฟื่อง ในปี พ.ศ. 2547

ละในเพลง อกหัก รุ่นเก๋า ของวรนุช กนกากร ในปี พ.ศ. 2552

ชีวิตส่วนตัว สุเชาว์แต่งงานแล้วและมีบุตรสาว 1 คน ชื่อ ณิฐา พงษ์วิไล

เรียบเรียงโดย ทีมงาน news.in.th

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ